หนุ่มขี่วินรับจ้างและแม่บ้านอนามัยที่ขี่รถย้อนศรเข้าพบตำรวจแล้ว หลังเป็นต้นเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุ
หนุ่มขี่วินรับจ้างและแม่บ้านอนามัยที่ขี่รถย้อนศรเข้าพบตำรวจแล้ว หลังเป็นต้นเหตุสองสาวต้องหักหลบจนไปชนกับรถที่จอดข้างทางจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
จากกรณีเมื่อช่วงเช้าของวานนี้ที่ 18 กรกฎาคม 2563 กรณีที่มีรถจักรยานยนต์ซึ่งมีหญิงสาวเป็นคนขี่และรถจักรยานยนต์รับจ้างได้ขี่ย้อนศรขึ้นมา ขณะที่มีรถจักรยานยนต์ที่นั่งซ้อมท้ายกันมาขับสวนทางมาและหักหลบทำให้เสียหลักพุ่งชนท้ายรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่บ้างทางจนเป็นเหตุให้นางสาวนุชนารถ ทาสีบุญ อายุ 38 ปีซึ่งเป็นคนขี่เสียชีวิต ส่วน น.ส.เบญจวรรณ แม็ดดูออลล์ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นญาติที่นั่งซ้อมท้ายมา ได้บาดเจ็บสาหัสแขนซ้ายหัก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้อย่างชัดแจน เหตุเกิดถนนสายลวด มุ่งหน้าแยกจักกะพาก ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
เมื่อช่วงสายของวันนี้ที่ 19 กรกฎาคม 2563 พ.ต.ต.พชรธรณ์ นพธัญสวัสดิ์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ เจ้าของคดีได้ติดตามตัวคนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างคันที่ขี่ย้อนศรมา ทราบชื่อภายหลังชื่อนายสมศักดิ์ ป้อมน้อย อายุ 54 ปี ซึ่งขับอยู่วินศรีสมุทร (หน้าวัดกลาง) เบอร์ 27 มาทำการสอบปากคำที่โรงพัก
นายสมศักดิ์ คนขี่วิน ได้เล่าว่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุตนขี่รถไปส่งผู้โดยสารที่ซอยเพียงอุทิศ ห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร และกำลังจะกลับวิน ซึ่งปกติก็ขี่ย้อนกลับมาเป็นกระจำเพราะย้อนกลับมามันจะใกล้ยูเทริน ก็เลยใช้วิธีขี่ย้อนกันเป็นประจำ ซึ่งก็มีผู้หญิงใส่เสื้อสีเหลืองขี่ย้อมศรอยู่หน้ารถตนก่อนแล้ว หลังเกิดเหตุตนก็ไม่ทราบเรื่องเลยว่ารถจักรยานยนต์ที่ขี่สวนทางมาหลบเข้าไปชนท้ายรถเก๋งที่จอดอยู่ จึงได้ขี่ไปจอดที่วินตามปกติ จนกระมั่งมาเห็นภาพจากล้องวงจรปิดที่ขึ้นอยู่ตามโซเชียน วันนี้จึงได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเดินทางมาพบ ในเรื่องที่เกิดขึ้นตนรู้สึกผิดก็อยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บด้วย ตนผิดเอง
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 19 กรกฎาคม 2563 นางสาวจำปา บุญมาจวบ อายุ 50 ปี สาวเสื้อเหลืองที่ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรคันแรกในวันทีเกิดเหตุ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.พชรธรณ์ นพธัญสวัสดิ์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ เจ้าของคดีเพื่อให้ปากคำ โดยอ้างว่าไม่รู้ว่าเสียชีวิตรู้แต่เพียงว่าได้รับบาดเจ็บเท่านั้น
โดยนางสาวจำปา ได้เล่าว่าตนทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่อนามัยตำบลบางเมือง ในวันที่เกิดเหตุตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านพักในซอยเทียนอุทิศ เพื่อที่จะไปซื้อกับข้าวที่ตลาดปากน้ำ โดยได้ขี่ย้อนศรขึ้นมาเพราะว่ามีคนอื่นขับย้อนมาหลายคันแล้ว ขณะย้อมขึ้นมาถึงที่เกิดเหตุได้เห็นผู้ตายขี่รถสวนทางมาด้วยความเร็วและหักหลบเข้าทางด้านซ้ายตนจึงได้อยู่ทางขวา พักใหญ่ก็ได้ยินเสียงคล้ายมีรถชนกัน ตนจึงหันไปดูได้พบว่าคู่กรณีทั้งสองที่หักหลบรถตนไปได้ไปชนกับท้ายรถเก๋งที่จอดอยู่ เห็นแต่มีคนเจ็บและมีชาวบ้านเข้ามาช่วยแล้ว ตนจึงได้ขี่รถไปซื้อกับข้าวที่ตลาด และขี่กลับมาจึงได้รู้ว่าทั้งสองบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ยังไม่ทราบว่าเสียชีวิต ตนกลับมาจากที่ทำงานคนที่บ้านบอกว่ามีตำรวจเข้ามาบอกให้ตนมาพบพนักงานสอบสวนที่โรงพัก สภ.เมืองสมุทรปราการ ตนจึงได้เดินทางมาและพึ่งทราบว่าคนขี่เสียชีวิตแล้ว ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับเพตุการณ์ที่เกิดขึ้น และก็ยอมรับผิดเพราะตนขี่ย้อนศรขึ้นไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ แจ้ง 4 ข้อหา 1. ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ไปตามทิศทางที่กฎหมายกำหนด / 2.ขับขี่ย้อนศรโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินผู้อื่น / 3.ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียหายและเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายสาหัส / 4.เป็นผู้ขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินจะต้องหยุดให้ความช่วยเหลือ ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดี
ขณะที่นายเฉลิม ทรงงาม สามีของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เบื้องต้นศพของภรรยาจะนำไปตั้งสวดบำเพ็ญกุศลที่วัดในสองวิหาร โดยจะเคลื่อนศพออกจากโรงพยาบาลสมุทรปราการ วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม แต่ที่ตนเองประสบปัญหาในตอนนี้คือเรื่องค่าใช้จ่ายค่าทำศพของภรรยา เนื่องจากครอบครัวค่อนข้างขัดสน รายได้ เนื่องจากมีอาชีพขายไก่ย่างซึ่งรายได้ก็ไม่เพียงพออยู่แล้วเพราะต้องดูแลอีกหลายชีวิต ประกอบผู้เสียชีวิตก็เป็นมะเร็งระยะที่ 2 และพึ่งไปทำคีโม มาเมื่อ 2 วันก่อนที่จะมาประสบเหตุ อยากวอนให้ทางคู่กรณีเข้ามารับผิดชอบค่าใช้จ่ายทำศพ และค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บก็ยังดี ขณะนี้ก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรและเริ่มทำใจได้แล้ว เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่เรื่องของคดีก็คงปล่อยไปตามแนวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ