รีเซต

ASPSลุ้นดัชนีแตะ1,451จุด ยกAOT-CKเด่นน่าสอยเก็บ

ASPSลุ้นดัชนีแตะ1,451จุด ยกAOT-CKเด่นน่าสอยเก็บ
ทันหุ้น
16 กรกฎาคม 2567 ( 16:46 )
38

#APSP#ทันหุ้น - ASPS ส่องหุ้นไทยครึ่งหลังปี2567 แววแตะ 1,451 จุด อานิสงส์เศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง แถมคาดจีดีพีปีนี้ราว 2.6% รับเงินลงทุนภาครัฐ-ดิจิทัลวอลเล็ตหนุน พร้อมชูAOT-CK-SIRI เด่นน่าสะสม รับผลบวกมาตรการกระตุ้นภาครัฐ ด้านคลัง ชง ครม.ปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG แล้ว


นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือASPS เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งหลังปี 2567 ฝ่ายวิจัยคาดจะได้เห็นดัชนีฟื้นตัวต่อเนื่อง เพราะมองว่าบรรยากาศของเศรษฐกิจหลังจากนี้จะปรับตัวดีขึ้น ปัจจัยบวกจากการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการลงทุนต่างๆ ของภาครัฐ อาทิ การลงทุนผ่านโครงสร้างพื้นฐาน, โครงการดิจิตอลวอลเล็ต ฯลฯ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนจะช่วยส่งผลให้ ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวแทบทั้งสิ้น


*ลุ้นดัชนีพุ่งแตะ1,451จุด

ทั้งนี้ แม้ฝ่ายวิจัยประเมินว่าการลดดอกเบี้ยในไทย อาจไม่เกิดขึ้นในปีนี้ดังประเทศอื่นๆ แต่ในช่วงไตรมาส 3 ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าลงทุนมากขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น คาดกำไรบริษัทจดทะเบียนไตรมาส2/2567 ที่มีโอกาสเติบโต จากช่วงเดียวกันปีก่อน (จากฐานกำไรงวดไตรมาส2/2566 ที่ต่ำกว่าปกติ) พร้อมกับมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และราคาน้ำมันยืนระดับสูงหนุนให้กำไรงวดไตรมาส 2/2567 มีโอกาสอยู่ในกรอบ 23-2.7 แสนล้านบาท


ในส่วนของ Valuation SET นั้นน่าจะเห็นแนวรับสำคัญทางพื้นฐานที่บริเวณ 1,300 จุด มีPER67F ที่14.2 เท่า(-1SD ในรอบ 10 ปี) และเป็นระดับต่ำสุดรองจากช่วงวิกฤตโควิดปี 2563 ขณะที่ในเชิง PBV มีค่าที่ 1.2 เท่า (-2SD ในรอบ 10 ปี), Dividend Yield 3.5% (+1SD ในรอบ 10 ปี)


ประกอบกับมาตรการสร้างความเชื่อมั่นของ ตลท. เริ่มจาก 1 ก.ค.67 ประกาศ การใช้กฎ UPTICK RULE ทุกบริษัท ซึ่งลดการทำธุรกรรมSHORT SELL ได้อย่างมีนัย บวกกับคาดหวังเม็ดเงินจาก ThaiESG เงื่อนไขใหม่ ที่อาจไหลกลับเข้ามาหนุนตลาดหุ้น 6 - 7 หมื่นล้านบาท  และหนุนให้กองทุนลดสถานะเงินสด และซื้อหุ้นเข้าพอร์ตเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่เหลือของปี อีกทั้งมีกระแสการฟื้นกองทุนรวมวายุภักษ์ แบบการันตีผลตอบแทนขั้นต่ำ เพื่อพยุงตลาดหุ้นไทยเพิ่มเติม ทำให้ฝ่ายวิจัยโดยคาดดัชนีมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,451 จุด ส่วนกรอบแนวรับมองไว้ 1,280 จุด


*ชูAOT-CK เด่นน่าสอย

นายเทิดศักดิ์ กล่าวเสริมว่า ในแง่ของกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นไทยนั้นยังให้น้ำหนักหุ้นในกลุ่มของหุ้นพื้นฐานดี ได้เม็ดเงิน ThaiESG ใหม่เข้ามาหนุน กับ 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ กลุ่มหุ้นได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ AOT, CK และ หุ้นปันผลระหว่างกาลสูง SIRI, ADVANC, TTB, TU


อย่างไรก็ดี ทางฝ่ายวิจัย คาดภาพรวมเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในช่วงที่เหลือของปี 2567 จะเข้าสู่โหมดของการฟื้นตัวอย่างชัดเจน เพราะได้แรงหนุนจากโครงการดิจิตอลวอลเล็ต และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3-4 ปีนี้ ดังนั้นฝ่ายวิจัยประเมินว่ามีโอกาสได้จีดีพีของประเทศไทยสิ้นปี 2567 เติบโตเฉลี่ยราว 2.6% จากปี 2566


ด้านทีมผลิตภัณฑ์ตลาดรอง ของ ASPS ประเมินภาพรวมการลงทุนของตลาดตราสารหนี้ไทยยังไปได้ดี และเป็นที่ ต้องการของนักลงทุน โดยเฉพาะตราสารหนี้ไทยที่มีอายุไม่ยาวมากและมีอันดับเครดิตตั้งแต่ Investment grade ขึ้นไป ข้อมูลจากสมาคมตราสารหนี้ไทย หรือThaiBMA แสดงให้เห็นว่า สิ้นไตรมาส 2/2567  ตลาดตราสารหนี้ไทยมีมูลค่าคงค้างเท่ากับ 17 ล้านล้านบาท ขยายตัว 2.7% จากสิ้นปีที่แล้ว จากการเพิ่มขึ้นของตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลเป็นหลัก


ส่วนของการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว (หุ้นกู้ระยะยาว) มีมูลค่า 494,371 ล้านบาท โดย 99% เป็นการออกของหุ้นกู้ใน กลุ่ม Investment grade ส่วนอีก5% เป็นกลุ่ม High yield ซึ่งมีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่าการออกของกลุ่มนี้มีลักษณะเป็นหุ้นกู้มีประกันในสัดส่วนที่สูงถึง81% สำหรับในครึ่งแรกปี 2567 สูงขึ้นจาก48% ในปี 2566 และมีอายุการออกเฉลี่ยที่2.2 ปี ลดลง จาก 2.5 ปี ในปี 2566


นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงการคลังได้เสนอการปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว โดยกองทุนดังกล่าว จะเป็นหนึ่งในมาตรการที่กระทรวงการคลังจะสนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยให้มีสภาพคล่องมากยิ่งขึ้น โดยผู้ลงทุนสามารถนำรายจ่ายจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าวมาหักลดหย่อนภาษีได้ จากเดิมที่หักได้ 30% ของรายได้ ไม่เกิน 1 แสน เป็นหักได้ 30% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 3 แสน แต่ผู้ลงทุนต้องต้องถือครอง 5 ปีปฎิทิน จากเดิม 8 ปีปฏิทิน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง