ลุยโคลนซับน้ำตาชาวเชียงรายวันที่สอง นายกฯ ลั่นไม่ทอดทิ้ง คุณยาย ปล่อยโฮ! ดีใจเจอนายกฯตัวจริง
วันที่ 28 ก.ย. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางถึงบ้านเกาะทราย ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้ลงเดินลุยโคลนเข้าไปในซอยบ้านเกาะทราย 9 โดยได้ให้กำลังใจทหารกองบัญชาการทหารพัฒนา ที่กำลังช่วยกวาดดินโคลนออกจากบ้านเรือนประชาชน จากนั้นรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และแนวทางการฟื้นฟูในพื้นที่ จากนั้นนายกฯ ได้เข้าไปเยี่ยมบ้านประชาชนที่ได้รับผลกระทบและพูดคุยสอบถามถึงขั้นตอนการขูดโคลนและใช้เครื่องดันน้ำแรงดันสูงฉีดโคลนออกจากบ้านเรือน
นายกฯ ยังได้เข้าไปเยี่ยมเยียนบ้านประชาชนที่ได้รับความเสียหายและมีดินโคลนเข้าภายในบ้านจำนวนมาก โดยประชาชนได้ร้องไห้เข้าสวมกอดนายกฯพร้อมเล่าถึงความเดือดร้อน ทำให้นายกฯน้ำตาคลอ ก่อนที่นายกฯ ได้ทักทายผู้สูงอายุที่หน่วยแพทย์ทหารได้เข้ามาตรวจสุขภาพ วัดความดันให้ โดยนายกฯกล่าวให้กำลังใจคุณยาย ขอให้มีกำลังใจนะ วันนี้มากันหมดเลยทั้งนายกฯ รองนายกฯ และรัฐมนตรี ช่วยแน่นอน และมีสาธารณสุขคอยดูแลเรื่องยา
และนายกฯ ยังได้เข้าไปเยี่ยมนางตาล หงศ์คำ อายุ 80 ปี ซึ่งนางตาลได้ร้องไห้โฮและยกมือท่วมหัวหลังจากได้เจอนายกฯ พร้อมกล่าวว่า ไม่คิดว่าชีวิตยายจะได้เจอกับนายกฯ ซึ่งนายกฯ ได้สอบถามถึงอาการป่วยและแพทย์ที่เข้ามาดูแลและจ่ายยาให้กับคุณยายถึงบ้านเนื่องจากไม่ยอมออกจากบ้านตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ นายกฯระบุว่าให้กำลังใจยายนะ ไม่เป็นไรทุกคนเข้ามาช่วยทั้งหมด และขอยืนยันว่าเท่าที่พูดคุยกับทหารจะไม่มีใครออกจากพื้นที่เลย จะดูให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อนและเร่งทำงาน อีกทั้งรัฐบาลดูแลเรื่องของการจ่ายเงินเยียวยา ซึ่งเงินมาถึงมืออย่างแน่นอน พร้อมให้กำลังใจและขอให้คุณยายทานยาอย่างต่อเนื่อง และชมว่าอายุขณะนี้ถือว่าเก่งแล้วที่ยังแข็งแรงอยู่ พร้อมเตือนว่าที่เป็นโรคความดันและเบาหวานผลไม้ก็มีน้ำตาลเยอะขอให้ระวัง นายกฯยังมอบยารักษาโรคประจำตัวให้คุณยาย ก่อนเดินมาพบกับกลุ่มนักเรียนโรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ ที่มาช่วยทำความสะอาดในพื้นที่ นายกฯจึงให้กำลังใจในการทำงานช่วยเหลือประชาชน
นอกจากนี้ นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอกของทีมหมูป่า ได้ยื่นข้อเสนอถึงนายกฯ ขอให้ช่วยประสานงานจัดตั้งศูนย์เรียนรู้และฟื้นฟูจิตใจเด็กและเยาวชนในชุมชนผู้ประสบภัย รวมถึงให้ตั้ง ศปช. ชุมชน ทำงานร่วมกับ ศปช. ส่วนหน้า และช่วงปิดภาคเรียนขอให้มีมาตรการกระตุ้นสนับสนุนเยาวชนในพื้นที่ที่ประสบภัยได้เป็นจิตอาสาเพื่อมีรายได้พิเศษจากการทำงานช่วยเหลือฟื้นฟูชุมชน
จากนั้นนายกฯพร้อมคณะเดินทางไปยังวัดพรหมวิหาร อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พบปะให้กําลังใจ และมอบเงินเยียวยาให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย โดยมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต จำนวน 4 ราย ๆ ละ 29,700 บาท และหัวหน้าครอบครัว จำนวน 1 ราย จำนวนเงิน 59,400บาท มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอำเภอแม่สาย บ้านเสียหายจำนวน 50 ครอบครัว เป็นเงิน 2,475,000 บาท มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามมติคณะคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 อำเภอแม่สายจำนวน 222 ครัวเรือนเป็นเงิน 1,110,000 บาทถ้วน มอบชุดอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านเรือนให้กับผู้ประสบภัย และมอบผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก จำนวน 102 ห่อใหญ่ จากเงินส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี