สหรัฐฯ เผชิญปัญหาการใช้ 'แรงงานเด็ก' ขยายวงกว้าง
นิวยอร์ก, 28 มี.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันอาทิตย์ (26 มี.ค.) หนังสือพิมพ์ยูเอสเอ ทูเดย์ (USA Today) ของสหรัฐฯ รายงานว่ามีเด็กจำนวนมากทำงานภายใต้เงื่อนไขสัญญาผูกมัดและแรงงานทาสในทุกรัฐของสหรัฐฯ ซึ่งหมายความว่ากฎหมายแรงงานเด็กของสหรัฐฯ ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กทำงานกำลังถูกทำลายโดยผู้ที่แสวงหาผลประโยชน์จากแรงงานข้ามชาติที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งถือเป็นแรงงานกลุ่มเปราะบางที่สุดรายงานอ้างอิงเอกสารที่เผยแพร่โดยหนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส เผยว่าแรงงานเด็กเหล่านี้มักถูกกักตัวและไม่ได้รับการปกป้องจากผู้ใหญ่ ขณะทำงานอย่างหนักกลางพื้นที่ทุ่งหญ้าและไร่นาการเกษตรขนาดใหญ่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายวันในการเดินออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือ หรือต้องทำงานหลายชั่วโมงในสายการประกอบในโรงงานที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเอกสารระบุว่าเป็นที่น่าตกใจว่ามีร้านค้าและแบรนด์ที่เราชื่นชอบมากมายให้การสนับสนุนแรงงานเด็ก อาทิ ทาร์เก็ต (Target) วอลมาร์ต (Walmart) เจ ครูว (J. Crew) โฮล ฟู้ดส์ (Whole Foods) เบน แอนด์ เจอร์รีส์ (Ben and Jerry) มาย มาเมาส์ เฟเวอริท (my Mamaw's favorite) และซีเรียลเชียเรียส (Cheerios) ของแบรนด์เจเนอรัล มิลล์ (General Mill)แรงงานเด็กที่ตกเป็นเหยื่อมักจะต้องทำงานตลอดทั้งคืนและเข้าเรียนในช่วงระหว่างวัน หลายคนยอมแพ้ให้กับตารางชีวิตอันเหนื่อยล้า และหากพวกเขาถามคำถามเกี่ยวกับเงื่อนไขการจ้างงาน พวกเขาก็จะถูกทำร้าย ขณะเหล่าเด็กผู้หญิงหลายคนต้องเผชิญกับการคุกคามทางเพศและขู่บังคับโดยผู้ใหญ่เพศชายเป็นประจำเอกสารชี้ว่าการตรวจสอบสภาพสถานที่ทำงานที่เลวร้ายและรายงานการละเมิดข่มขู่ดังกล่าวนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ตรวจสอบฝ่ายรายได้และชั่วโมงการทำงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ แต่พวกเขากลับไม่ดำเนินการตรวจสอบและรายงานใดๆ เพราะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากพวกเขามีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอที่จะปฏิบัติภารกิจที่ฝังรากลึกนี้ได้อนึ่ง ในปี 1978 รัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจ้างผู้ตรวจสอบแรงงาน 1 คน ต่อแรงงานทุกๆ 69,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่เพียงพออย่างมาก ก่อนที่ในปี 2018 ผู้ตรวจสอบแรงงานแต่ละคนต้องรับผิดชอบแรงงาน 175,000 คน ซึ่งมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า