อาห์หมัด อัล-ชารา ผู้นำซีเรีย ถึงสหรัฐฯ แล้ว เตรียมพบทรัมป์พรุ่งนี้

ประธานาธิบดีอาห์หมัด อัล-ชารา ของซีเรีย เดินทางถึงสหรัฐฯ แล้วเมื่อค่ำวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเข้าร่วมการเยือนอย่างเป็นทางการ ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ คาดหวังว่าจะสามารถโน้มน้าวให้ซีเรียเข้าร่วมพันธมิตรนานาชาติในการต่อสู้กับกลุ่มไอเอส 

การเยือนของผู้นำซีเรียเกิดขึ้นในขณะที่กระทรวงมหาดไทยของซีเรีย ประกาศเริ่มต้น “ปฏิบัติการด้านความมั่นคงครั้งใหญ่ทั่วประเทศ” โดยมีเป้าหมายเพื่อกำจัดเครือข่ายและเซลล์ลับของกลุ่มไอเอส

อัล-ชารามีกำหนดพบปะกับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาวในวันที่ 10 พฤศจิกายน ซึ่งจะถือเป็นการเยือนของประมุขแห่งซีเรียครั้งแรกนับตั้งแต่ประเทศได้รับเอกราชในปี 1946

เขาเคยพบกับทรัมป์มาแล้วในการประชุมสุดยอดที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา อัล-ชาราเพิ่งถูกถอดชื่อออกจากบัญชีคว่ำบาตรผู้ก่อการร้ายของสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ

ทอม บารัค ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ประจำซีเรีย เคยกล่าวเมื่อช่วงต้นเดือนว่า เขาหวังว่าอัล-ชาราจะลงนามในข้อตกลงเข้าร่วมพันธมิตรนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ เพื่อต่อต้านกลุ่มไอเอส

แหล่งข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์สและเอเอฟพี รายงานว่า สหรัฐฯ อยู่ระหว่างเตรียมการจัดตั้งฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งในกรุงดามัสกัส เพื่อสนับสนุนข้อตกลงด้านความมั่นคงที่สหรัฐฯ กำลังเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยระหว่างซีเรียกับอิสราเอล

ระหว่างการเยือนครั้งนี้ อัล-ชาราคาดว่าจะยื่นขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อฟื้นฟูประเทศหลังผ่านความเสียหายยาวนานกว่า 13 ปีของสงครามกลางเมือง

ธนาคารโลกประเมินว่า งบประมาณฟื้นฟูประเทศซีเรียอาจสูงถึง 2.16 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 6.9 ล้านล้านบาท ซึ่งระบุว่าเป็นเพียง “ค่าประมาณต่ำสุด” เท่านั้น

ก่อนขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ อัล-ชาราเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มติดอาวุธที่แยกตัวออกจากเครือข่ายอัลกออิดะห์ในซีเรียเมื่อสิบปีก่อน และต่อมามีการปะทะกับกลุ่มไอเอส

กลุ่มของเขา “ฮายัต ตะห์รีร์ อัล-ชาม” (Hayat Tahrir al-Sham: HTS) ถูกถอดชื่อออกจากบัญชีองค์กรก่อการร้ายของสหรัฐฯ ไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

การเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากอัล-ชาราเดินทางมาร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่ผู้นำซีเรียได้เดินทางมายังสหรัฐฯ และกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมยูเอ็นในนครนิวยอร์ก