AAI สู้ศึกรับบาทแข็ง Q4ฟื้น-เป้า4.76บาท

#AAI #ทันหุ้น – AAI รับมือบาทแข็ง มองอยู่ในกรอบบริหารได้ มั่นใจปี 2569 โตต่อ พร้อมเร่งเครื่องธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเป็นหัวหอก ซุ่มแผนธุรกิจปีม้า เบื้องต้นตั้งเป้ารายได้ปี 2569 โตราว 10% ลุยทุ่มลงทุน 300 ล้านบาท สร้างอาคารผลิตรับเครื่องจักร ปรับกระบวนการผลิตใหม่ ฟากโบรกคาดงบ Q4 ฟื้น แนะนำ “ถือ” ราคาเหมาะสม 4.76 บาท
นางสาววรัญรัชต์ อัสสานุพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน และนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ว่า แม้ค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในระยะนี้ จะถูกมองเป็นแรงกดดันต่อผู้ส่งออก แต่ทั้ง AAI และบริษัทแม่ บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN ยังคงดำเนินนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อลดผลกระทบ
เงินบาทแข็ง
โดยระดับค่าเงินบาทเหนือ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในกรอบที่บริษัทประเมินไว้แล้ว อาจกระทบยอดขายและบ้าง แต่หากไม่แข็งค่ามากกว่านี้ ถือว่าบริหารจัดการได้ บริษัทมองว่าปี 2569 ยังมั่นใจผลประกอบการของทั้ง 2 บริษัทจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2568 ขณะที่เป้าหมายเชิงตัวเลขอยู่ระหว่างสรุปเพื่อประกาศในปีหน้า (ปี 2569)
สำหรับทิศทางธุรกิจอาหารแช่แข็ง คาดภาพรวมทรงตัว แต่บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมเพิ่มไลน์ธุรกิจหรือสินค้าใหม่ภายในกลุ่มแช่แข็งเดิม เพื่อขยายโอกาสในตลาดให้กว้างขึ้น ขณะที่ธุรกิจอาหารสัตว์คาดเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก โดยอาศัยการผนึกกำลังภายในกลุ่ม เช่น บริษัท เอเชี่ยน นิวทริชั่น จำกัด ในเครือ ASIAN ที่ผลิตสินค้าป้อนให้ AAI รวมถึงรับจ้างผลิตเพื่อส่งออกผ่าน AAI อีกทั้ง “เอเชี่ยน นิวทริชั่น” ได้ขยายขอบเขตการผลิตจากอาหารสัตว์น้ำไปสู่อาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตามบริษัทเคยประเมินเมื่อต้นเดือนธันวาคมว่า รายได้ปี 2569 มีโอกาสเติบโตราว 10% จากปีนี้ และในไตรมาส 1/2569 บริษัทมีแผนก่อสร้างอาคารผลิตเพื่อรองรับเครื่องจักรและปรับรูปแบบการผลิตใหม่ ใช้งบลงทุนรวม 300 ล้านบาท คาดเริ่มใช้งานพื้นที่ได้ในไตรมาส 2/2569
ผลงาน Q4 น
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ระบุว่า คาดผลประกอบการ AAI ว่า ไตรมาส 4/2568 จะฟื้นตัวจากไตรมาส 3/2568 จากการออกสินค้าใหม่กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง 106 SKU ตั้งแต่ไตรมาสที่ผ่านมา แม้ระยะสั้นยังถูกกดดันจากเงินบาทแข็งค่า แต่เริ่มเห็นแนวโน้มดีขึ้นจากสินค้าใหม่ อีกทั้งแม้ไทยอาจถูกปรับขึ้นภาษีนำเข้าในสหรัฐฯ แต่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงยังมีความได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
สำหรับปี 2569 คาดยอดขายฟื้นตัวเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อนที่ได้รับผลกระทบระยะสั้นจากประเด็น Reciprocal Tariff ซึ่งกระทบคำสั่งซื้อ ขณะที่การพัฒนาสินค้าใหม่ยังทำร่วมกับลูกค้าในเอเชียและยุโรป ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดทรงตัวที่ 16% จากผลกระทบเงินบาทแข็งค่า ส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิเติบโต 5% อยู่ที่ 842 ล้านบาท พร้อมแนะนำ “ถือ” เพื่อรอการฟื้นตัว โดยมองว่าการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และให้ราคาเหมาะสมปี 2569 ที่ 4.76 บาทต่อหุ้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
