ยอมรับผิด! คนขับกระบะชนแล้วหนีอ้างตกใจรีบไปแจ้ง ผญบ.พามอบตัวหลังเกิดเหตุ 2 วัน
จากกรณีเกิดอุบัติเหตุเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 5 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา รถยนต์กระบะขับชนคนเดินข้ามถนนสายหมายเลข 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว ช่วงบริเวณตรงข้ามตลาดสดเทศบาลบ้านค่าย ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นชาย 1 ราย
ซึ่งต่อมา วันที่ 7 มิถุนายน พี่ชายของผู้บาดเจ็บได้ไหว้ขอภาพกระบะชนแล้วหนีทิ้งคนเจ็บไม่ยอมลงมาช่วยอาการยังโคม่าไม่ได้สติ และขอเรียกร้องให้ผู้ก่อเหตุชนแล้วหนีครั้งนี้รีบออกมาแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเร็วเพราะเวลาเกิดเหตุก็ผ่านมาเกือบ 2 วันแล้ว และตนเองก็ไม่มีเงินทองที่จะมาช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้กับน้องที่ยังมีอาการถูกชนสาหัสยังไม่ได้สติสมองบวม ทั้งแขนขาทั้งหมดหักจนแทบไม่เหลือสภาพที่จะช่วยตัวเองได้ซึ่งยังต้องอยู่ในความดุแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดอยู่ในขณะนี้
ล่าสุดเมื่อเย็นวันนี้ 7 มิ.ย.64 ทางด้านผู้ก่อเหตุชนแล้วหนีรายนี้ได้เดินทางมาพร้อมกับนายอุทัย บำรุง ผู้ใหญ่บ้าน(ผญบ.)โนนโพธิ์ทอง ม.21 ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ได้ประสานกับจนท.ตำรวจ สภ.บ้านค่าย ว่าจะพา นายหนูแดง จุมพลพงษ์ อายุ 64 ปี ผู้ต้องหาที่ได้ขับรถยนต์กระบะชนคนข้ามถนนแล้วขับรถหนีตามคลิปของพลเมืองดี และเป็นข่าวเกิดขึ้นในเขตพื้นที่ สภ.บ้านค่าย เพื่อมามอบตัวพร้อมของกลางคือรถยนต์กระบะที่เกิดเหตุ กับ ร.ต.อ.สมชาย ชนะหาญ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี โดยมี พ.ต.อ.อานุภาพ ผิวอ่อน ผกก สภ.บ้านค่าย ลงสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตนเอง
โดยจนท.จึงได้สอบสวนข้อเท็จจริงก่อนที่จะประสานญาติพี่ชายของผู้บาดเจ็บมาพูดคุยกัน ในเบื้องต้นเองทางผู้ก่อเหตุรายนี้ก็พร้อมที่จะแสดงความรับผิดชอบต่อคู่กรณีทั้งหมดจนกว่าจะมีอาการดีขึ้นแล้ว ก่อนที่ทาง จนท.ตร.จะแจ้งขอหาในเบื้องต้นคือขับรถโดยประมาทต่อไป
ด้านนายหนูแดง อายุ 64 ปี ผู้ต้องหาขับรถชนคู่กรณีแล้วหนี ได้เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวมาจากบ้านก่อนที่จะเข้าไปซื้อของในตัวอำเภอเมืองรวมระยะทางกว่า 25 กิโลเมตร ซึ่งก็ได้ขับมาอยู่ในเลนซ้ายมาโดยตลอดก่อนที่จะเห็นผู้ได้รับบาดเจ็บเดินข้ามถนน โดยตนตั้งใจจะหักหลบแล้วแต่ไม่พ้น ส่วนที่ไม่ได้จอดลงมาดูช่วยเหลือ เพราะเกิดความตกใจทำอะไรไม่ถูก คิดถึงแต่ผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านตนเอง จึงรีบขับรถไปหาเพื่อให้ช่วยพามอบตัวในครั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาหลบหนีแต่อย่างใด เป็นเพราะความตกใจทำอะไรไม่ถูกในขณะเกิดเหตุขึ้นเท่านั้น และพร้อมที่จะแสดงความรับผิดชอบต่อคู่กรณีที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทั้งหมดด้วย