‘ททท.’ ชี้ ‘นายก’ กดปุ่มเที่ยวบินเบตงหนุนเที่ยวในประเทศฟื้นตัว รอประเมินสงกรานต์ก่อนย้ำเป้าปี 65
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีได้เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ท่าอากาศยานเบตง จ.ยะลา แล้วนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีกับภาพรวมการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ เนื่องจากเดิมการท่องเที่ยวยังเป็น 3 เหลี่ยมคือ ที่ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และหาดใหญ่ รวมถึงรับนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียผ่านด่านเข้ามา ซึ่งในสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การเดินทางระหว่างประเทศมีข้อจำกัด ขณะที่เบตงมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ อาทิ ทะเลหมอกที่อัยเยอร์เวง ซึ่งจะทำให้เกิดการเดินทางสูงมากขึ้น รวมถึงกระจายไปยังแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่อื่นด้วย ส่วนการท่องเที่ยวภาคใต้ในช่วงนี้ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศ ภายใต้มาตรการเทสต์ แอนด์ โก แต่ยอมรับว่าพื้นที่ตรงนี้ยังเป็นสีแดง จึงต้องสร้างความเชื่อมั่นในการท่องเที่ยว เพื่อทำให้เห็นว่าแหล่งท่องเที่ยวมีความปลอดภัย รวมถึงอยากฝากประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ให้ช่วยกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวอยากกลับมาเยือนซ้ำอีกครั้ง โดยในปี 2565 ทิศทางเป้าหมายตลาดนักท่องเที่ยวภายในประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้อยู่ที่ 656,000 ล้านบาท จากนักท่องเที่ยวไทย 160 ล้านคน-ครั้ง ส่วนจะมีการปรับเป้าหมายตลาดภายในประเทศหรือไม่นั้น ขอรอติดตามการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก่อนว่าจะมีความคึกคักมากน้อยอย่างไร
“การจัดงานเทศกาลสงกรานต์ ในช่วงเดือนเมษายนนี้ รอติดตามผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ในวันที่ 18 มีนาคมนี้ก่อน โดยหากที่ประชุมไม่มีมาตรการสั่งงดการจัดงานสงกรานต์ หรือมีมาตรการควบคุมแบบใดออกมา ททท.ก็จะเดินหน้าจัดงานและกิจกรรมส่งเสริมการตลาดให้สอดรับกับหลักการที่ ศบค.อนุมัติ โดย ททท.จะพิจารณาเลือกพื้นที่จัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดอีกครั้ง ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการโรคติดต่อของจังหวัดนั้นๆ รวมถึงเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับความปลอดภัยด้านสาธารณสุขและการควบคุมการระบาดโควิด-19 ด้วย” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับตลาดต่างประเทศนั้น แม้ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน รวมถึงมีปัจจัยสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ก่อสงครามระหว่างกัน แต่ททท.ยังคงเป้าหมายการท่องเที่ยวปี 2565 ส่วนของตลาดต่างประเทศไว้คือ ต้องมี นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน สร้างรายได้ 625,800 ล้านบาท โดยสงครามรัสเซียและยูเครน ถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเป็นราคาน้ำมัน ที่ปรับตัวแพงขึ้น ดันภาวะเงินเฟ้อ และส่งผลกระทบต่อต้นทุนการเดินทาง รวมถึงจิตวิทยาการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ