กนอ.ตั้งโรงงานผลิตน้ำจืดใช้ทั่วนิคมฯ ช่วยโรงงานรับมือวิกฤตแล้ง
กนอ.ตั้งโรงงานผลิตน้ำจืดใช้ทั่วนิคมฯ ช่วยโรงงานรับมือวิกฤตแล้ง ศึกษาตั้งบ.ลูกร่วมลงทุนเอกชน
น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ กนอ.ได้ประชุมร่วมกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยกนอ.จัดทำแผนการจัดหาน้ำเพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรมโดยไม่ต้องรบกวนน้ำจากภาคการเกษตร และเร่งลดการใช้น้ำ นำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ และปรับปรุงน้ำเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อลดการใช้น้ำให้มากที่สุด ขณะเดียวกันยังได้เตรียมแผนสร้างโรงงานนำน้ำทะเลมาผลิตเป็นน้ำจืด เบื้องต้นมีแผนตั้งบริษัทลูกเพื่อร่วมลงทุนกับภาคเอกชน เพื่อสร้างความมั่นคงมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อผู้ประกอบการ โดยโรงงานผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลจะป้อนน้ำให้โรงงานช่วงมีปัญหาภัยแล้ง สร้างความมั่นใจว่าจะมีน้ำใช้ในภาคอุตสาหกรรมเพียงพอ
“ที่ผ่านมาโรงงานขนาดใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดหลายรายมีโรงงานผลิตน้ำจืดของตัวเองแล้ว แต่โครงการนี้จะช่วยผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมทั้งหมดรับมือภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต กำลังการผลิต 3 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะเป็นหลักประกันให้กับโรงงานว่าจะมีน้ำใช้อย่างแน่นอน ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นเช่นไร โดยการผลิตน้ำดังกล่าวจะใช้ในเฉพาะช่วงสั้นๆช่วงฤดูแล้งเท่านั้น แต่ในช่วงอื่นๆก็จะใช้น้ำจากแหล่งน้ำปกติ ทำให้เมื่อเฉลี่ยทั้งปีต้นทุนน้ำจะไม่เพิ่มขึ้นมากนัก รวมทั้งการตั้งโรงงานผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลในพื้นที่มาบตาพุดก็มีต้นทุนการวางท่อส่งน้ำต่ำกว่าการวางท่อส่งน้ำจากแหล่งน้ำที่อยู่ไกล โดยคาดว่าโครงการนี้จะมีความชัดเจนภายใน 2-3 เดือนนี้ ส่วนราคาขายของน้ำจืดจะทำการตกลงกับผู้ประกอบการก่อน เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระที่สูงจนเกินไป”น.ส.สมจิณณ์กล่าว
น.ส.สมจิณณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันอีอีซีมีนิคมฯ 34 แห่ง แบ่งเป็นในจังหวัดระยอง 15 แห่ง ชลบุรี 15 แห่ง และฉะเชิงเทรา 4 แห่ง แหล่งน้ำหลักที่ใช้ในพื้นที่ขณะนี้รับมาจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ อ่างเก็บน้ำดอกกราย อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ ส่วนแหล่งน้ำสำรองมาจากบ่อน้ำในนิคมอุตสาหกรรมและภาคเอกชน