รีเซต

"ไทย-มาเลย์" ร่วมพัฒนา"ระบบราง"ไร้รอยต่อ

"ไทย-มาเลย์" ร่วมพัฒนา"ระบบราง"ไร้รอยต่อ
TNN ช่อง16
5 พฤษภาคม 2568 ( 09:42 )
25

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นาย H.E. Loke Siew Fook รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาเลเซีย และคณะ เดินทางเยือนไทย เพื่อศึกษาดูงานด้านระบบรางเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางระบบรางที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน 

โดยบริเวณชั้น 3 ได้รับการออกแบบให้รองรับรถไฟความเร็วสูง และโครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการเชื่อมโยงการเดินทางและระบบโลจิสติกส์ภูมิภาคเข้าด้วยกัน

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ด้านโครงสร้างพื้นฐานภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย และรัฐบาลจีน เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางจากกรุงเทพฯสู่เวียงจันทน์ และนครคุนหมิง ผ่านโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงของ สปป.ลาว และจีนอย่างไร้รอยต่อ


ปัจจุบันไทยอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง 2 โครงการหลัก ได้แก่ 1.โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 (ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา) ระยะทาง 251 กิโลเมตร ปัจจุบันมีความคืบหน้ารวมประมาณร้อยละ 42.91  โดยเฉพาะสัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง อยู่ระหว่างการเสนอแนวทางแก้ไขโครงการต่อคณะกรรมการ EEC เพื่อขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าจะสามารถเริ่มออกแบบและก่อสร้างโครงสร้างร่วมได้ภายในปี 2568

2. ช่วงดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา เป็นเส้นทางที่รวมโครงการรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออก (กรุงเทพฯ - ระยอง) และรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานเข้าด้วยกัน เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบินของไทย


ทั้งนี้การเยือนไทยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาเลเซียในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการกระชับความร่วมมือระหว่างไทยและมาเลเซีย ด้านการพัฒนาระบบราง โดยเฉพาะการเชื่อมต่อระบบขนส่งสินค้าผ่านแดน ขบวนรถสินค้าคอนเทรนเนอร์ เส้นทางชุมทางบ้านทุ่งโพธิ์ - ชุมทางหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ 40 ขบวน/เดือน 

และขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศด้วยขบวนรถไฟ "มายสวัสดี" เส้นทาง KL Sentral - สถานีชุมทางหาดใหญ่ - KL Sentral ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่เมืองสำคัญของมาเลเซีย อาทิ ปาดังเบซาร์ และบัตเตอร์เวิร์ธ เพื่อเดินทางข้ามพรมแดนได้สะดวกและปลอดภัย ตอบโจทย์การขนส่งคนและสินค้าในระดับภูมิภาค และยังสอดคล้องกับเป้าหมายของทั้ง 2 ประเทศ ในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์และเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง