เปิดภาพวงจรปิดในกรง “พลายศักดิ์สุรินทร์” บนเครื่อง IL-76
2 ก.ค. 2566 กำหนดการ พลายศักดิ์สุรินทร์ หรือ "มธุราชา" ช้างไทยวัย 30 ปี เดินทางกลับประเทศไทย โดยคาดว่าจะถึงสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ช่วงเวลาประมาณ 13.00-14.00 น. ซึ่งก่อนเดินทางกลับไทย เจ้าอาวาสวัดคานดีวิหารา และคณะสงฆ์ ของศรีลังกา ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้พลายศักดิ์สุรินทร์ เพื่อความเป็นสิริมงคล และสร้างขวัญกำลังใจให้กับคณะเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน
เพจของ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เผยภาพจากวงจรปิดในกรง “พลายศักดิ์สุรินทร์” บนเครื่อง IL-76 โดยมีอาการนิ่งสงบ ซึ่งขณะเดินทางกลับประเทศไทย จะมีกล้องวงจรปิดคอยสังเกตพฤติกรรมตลอด เวลาคาดว่าถึงเมืองไทย 14.00 น.
การนำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับไทย นับเป็นงานใหญ่ที่ต้องวางแผนการเดินทางระหว่างประเทศอย่างรัดกุม ซึ่งตลอดระยะเวลาเกือบ 6 ชั่วโมงที่อยู่บนน่านฟ้า พลายศักดิ์สุรินทร์ จะมีควาญช้างไทย 3 คน ที่จะคอยส่งเสียงพูดคุย และคอยป้อนอาหารที่เตรียมมา ทั้งกล้วย อ้อย ผลไม้ หญ้า ทั้งนี้เพื่อคลายความเครียดและเพลิดเพลินกับการเดินทางตลอดที่อยู่บนเครื่องบิน โดยมีสัตวแพทย์ 2 นาย คอยดูแลอาการ และยังมีควาญช้าง ชาวศรีลังกาอีก 1 คน ร่วมดูแล
นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะทำงานยุทธศาสตร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ในการนำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับไทย ระบุว่า การนำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับบ้านครั้งนี้ ต้องขอบคุณสถานเอกอัครราชทูต และ สวนสัตว์เดฮิวาราที่ให้สถานที่ดูแลชั่วคราว ตลอดจนทีมสัตวแพทย์ ฯลฯ ที่ทำงานควบคู่กันไป และขอบคุณคนไทยที่ส่งกำลังใจมั่นใจว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี และย้ำว่า สิ่งแรกที่พลายศักดิ์สุรินทร์กลับถึงไทย คือ ปลดโซ่ให้ไม่รัดและหนักแบบนี้
สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย) ได้จัดเตรียมสถานที่รอต้อนรับพลายศักดิ์สุรินทร์ ที่จะต้องใช้ชีวิตในพื้นที่เฝ้าระวังโรคช้าง และสังเกตอาการ เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน เจ้าหน้าที่จะตั้งกล้องติดตาม และสังเกตการณ์ในพื้นที่ดูแลช้างอย่างใกล้ชิด และมีการเชื่อมต่อส่งสัญญาณมายังห้องวอรูม ที่อาคารกัลยาณิวัฒนาการุณย์ สถาบันคชบาลฯ เพื่อแสดงภาพผ่านจอ ให้ประชาชน และสื่อมวลชนที่สนใจเข้าติดตามอาการ และการดูแลรักษาได้ทุกวัน และเมื่อพ้นระยะ 30 วันแล้ว จะเชิญชวนทุกคนได้เข้าเยี่ยมพลายศักดิ์สุรินทร์
โดยจะประกาศให้ทราบอีกครั้งผ่านเพจศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง
ภาพ : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช