บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 คลังเริ่มใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ 1 มี.ค. 2566
ตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คลังเริ่มใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 ประมาณวันที่ 1 มี.ค. 2566 พร้อมประกาศผลลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ต่อเนื่องตลอดเดือนมีนาคม หากตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ผ่าน สามารถยื่นอุทธรณ์ ขอสิทธิย้อนหลังได้ และคาดว่าจะเพิ่มสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติม
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566
ประกาศผลลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านหรือไม่ผ่าน ที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th/ หรือ http://welfare.mof.go.th ซึ่งความคืบหน้าล่าสุด นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในฐานะประธานกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม แจ้งว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนตามที่กำหนดไว้ หากผู้ที่ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ผ่าน ให้ยืนยันตัวตนเพื่อได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ที่ ธนาคารตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ได้แก่ ธนาคารกรุงไทยฯ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน ตั้งแต่วันที่ประกาศผลผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเป็นต้นไป ผู้ลงทะเบียนที่ผ่านคุณสมบัติและยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว สามารถเริ่มใช้สิทธิ์ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้เลย
โดยจะเริ่มใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป หากตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ผ่าน สามารถยื่นอุทธรณ์ แก้ไขข้อมูลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะใช้เวลาประมาณ 15-30 วัน หากผ่านคุณสมบัติ จะได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐย้อนหลังด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มเติมสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐในบัตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนให้ครอบคลุมมากที่สุด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างของบประมาณเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาเพิ่มสิทธิอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันมีงบประมาณในกองทุนอยู่ 5 หมื่นล้านบาท
อัปเดตเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566
ทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
- วงเงินซื้อสินค้า 200/300 บาทต่อเดือน
- วงเงินซื้อสินค้า ตามมาตรการช่วยเหลือเงินพิเศษ 200 บาทต่อเดือน (เฉพาะเดือนมกราคม 2566)
- ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (ม.ค. - มี.ค. 66)
- ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย
- ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
- ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
- ค่าโดยสารรถ ขสมก./รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)
ทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
- เงินชดเชยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้ลงทะเบียนกับ กฟน. กฟภ. และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)
- เงินชดเชยตามจำนวนเงินที่ชำระค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้ลงทะเบียนกับ กปน. กปภ. ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท (ที่ได้ชำระเงินแล้ว) ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)
ทุกวันที่ 22 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)
ข้อมูลจาก กระทรวงการคลัง
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.
คลิกเลย >>> TrueID Community <<<