KCGชูครึ่งปีหลังฟอร์มแจ่ม ลุยสินค้าใหม่-อัพกำลังผลิต

#KCG #ทันหุ้น – KCG เตรียมออกสินค้าใหม่เพิ่มยอดขายกว่า 100 รายการ ประเมินโค้งสุดท้ายของปีเข้าไฮซีซันหนุนผลงานโตแรง มั่นใจภาพรวมครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก ด้านต้นทุนวัตถุดิบแม้ยังสูงแต่รับมือได้ ลุยเปิดคลังสินค้าลดต้นทุนชดเชย ล่าสุดอัพกำลังผลิตกลุ่มเนย-มาการีน เป็น 23,000 ตันต่อปี
นายดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า เตรียมออกสินค้าใหม่หนุนยอดขาย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากนม (เนยและชีส) และกลุ่มบิสกิต ในครึ่งปีหลังกว่า 100 รายการ โดยคาดว่าทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2567 จะทำระดับสูงสุดของปี เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของภาคท่องเที่ยว และเป็นช่วงการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งคาดว่าปัจจัยเหล่านี้จะเข้ามายอดขายทั้งในกลุ่มได้เป็นอย่างดี
สำหรับต้นทุนวัตถุดิบครึ่งปีหลัง 2567 เช่น น้ำมัน เนย คาดว่ายังคงผันผวนเเละกระทบต้นทุนบ้าง แต่อย่างไรก็ตามมองว่าเป็นปัจจัยกดดันระยะสั้น และคาดว่าช่วงไตรมาส 4/2567 ต้นทุนจะเริ่มดีขึ้น ทั้งนี้จากราคาต้นทุนเฉลี่ยในปัจจุบันยังคงอยู่ในแผนที่บริษัทวางเอาไว้ และบริษัทได้มีการซื้อวัตถุดิบล็อคราคาล่วงหน้าไว้ไปจนถึงไตรมาส 3/2567
นอกจากนี้ในครึ่งปีหลังบริษัทจะเปิดศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าพร้อมกันครบทั้ง 6 อาคาร ในช่วงครึ่งหลังซึ่งสามารถจัดเก็บวัตถุดิบและสินค้าได้ครบทุกอุณหภูมิ ทั้งแบบอุณหภูมิห้อง (Ambient) แช่เย็น (Air-Conditioned และ Chilled) และแช่แข็ง (Frozen) ทำให้จะสามารถช่วยลดต้นทุนของบริษัทจากการเช่าคลังสินค้า ด้านนอกปีละกว่า 50 ล้านบาท ชดเชยกับต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับขึ้นได้
*รายได้โตตามเป้า
อย่างไรก็ดีบริษัทมั่นใจรายได้ปี 2567 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%จากปีก่อนที่บริษัทมีรายได้จากการขาย 7,157 ล้านบาท โดยคาดว่ายอดขายในช่วงที่เหลือของปี จะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ และเงิน Digital Wallet เข้ามาช่วยหนุนกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงท้ายปี 2567
บริษัทมองว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products) ความต้องการของผู้บริโภคสูงขึ้น และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงต้องการปรับปรุง และขยายไลน์การผลิตเนยและมาการีน เพื่อยกระดับศักยภาพการผลิต พร้อมกับนำนวัตกรรมใหม่เข้ามาเสริมประสิทธิภาพการผลิตอย่างยั่งยืนเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเพียงพอ
*อัพกำลังผลิตเพิ่ม
ทั้งนี้ปัจจุบันกำลังการผลิตเนยของบริษัทสามารถผลิตได้ 18,000 ตันต่อปี ซึ่งครั้งนี้บริษัทตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตให้เป็น 23,000 ตันต่อปี (สูงสุด 23,261 ตันต่อปี) ภายในปี 2568 ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 22 เดือน เริ่มต้นเดือน มกราคม 2667 และแบ่งเป็น 5 ระยะ เร่มจาก ระยะที่ 1 : ปรับปรุงพื้นที่สายการผลิตเนยปัจจุบัน 1,284 ตารางเมตร โดยรวมพื้นที่สายการผลิตเดิมของ Processed Cheese จำนวน 1,080 ตารางเมตร และติดตั้งเครื่องจักรเพิ่ม และระบบสายพานลำเลียงใหม่ ทำให้มีพื้นไลน์ผลิตเนยที่รวมแล้วเสร็จ 2,364 ตารางเมตร
ระยะที่ 2 – 5 : เพิ่มเครื่องจักรในการบรรจุแบบอัตโนมัติ และการจัดการสายการผลิต ให้สอดคล้องกับพื้นที่ส่วนขยาย อาทิ ระบบลำเลียง (Conveyor) การจัดเรียงพาเลตอัตโนมัติ (Robotic Palletizer) สามารถรองรับการผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นได้ถึงปี 2574