เดินหน้าหมอชิตคอมเพล็กซ์ ทำท่ารถตู้ ส่งต่อคมนาคมศึกษาไม่ต้องเวนคืนที่ดิน
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้มีการประชุมร่วมกับกรุงเทพมหานคร กรมการขนส่งทางบก บริษัทขนส่ง จำกัด หรือ บขส. และบริษัท บางกอกเทอร์มินอล จำกัด (บีเคที) เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุพหลโยธิน หรือโครงการหมอชิตคอมเพล็กซ์ โดยสรุปว่าจะเดินหน้าโครงการต่อ และได้หารือประเด็นข้อติดขัดต่างๆ ที่ทำให้โครงการล่าช้า ทั้งประเด็นการย้ายสถานีขนส่งหมอชิตกลับเข้ามาใช้พื้นที่ที่มีการกันไว้ 1.1 แสนตารางเมตร และการเวนคืนที่ดินโดยรอบเพื่อทำทางยกระดับเข้าออก เพื่อเร่งหาข้อยุติให้ได้โดยเร็ว และกลับมาประชุมหารืออีกครั้งในเดือนมีนาคม 2564 นี้
ส่วนการย้ายสถานีขนส่ง เบื้องต้นอาจพิจารณาปรับรูปแบบให้ย้ายกลับมาเฉพาะในส่วนของรถโดยสารขนาดเล็ก อาทิ รถตู้ เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ และลดผลกระทบทางจราจร โดยหลังจากนี้ทางกรมการขนส่งทางบก และ บขส. เร่งหารือกับกระทรวงคมนาคมเพื่อหาข้อสรุป รวมถึงต้องหารือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ในขอขยายสัญญาการใช้พื้นที่หมอชิตปัจจุบันด้วย
สำหรับปัญหาการเวนคืนที่ดินโดยรอบโครงการ ซึ่งมีชาวบ้านได้รับผลกระทบและออกมาร้องเรียนจำนวนมากว่า กรมธารักษ์มีแนวทางว่าจะไม่มีการเวนคืนที่ดิน เพราะการเวนคืนถือเป็นเรื่องใหญ่ต้องใช้งบประมาณในการเวนคืนหลายพันล้านบาท และยังทำให้ชาวบ้านหลายครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งที่ผ่านมาชุมชนโดยรอบก็เสียโอกาสมานานแล้ว เพราะหลังจากมีข่าวจะเวนคืนก็ไม่สามารถนำพื้นที่ไปพัฒนาได้ โดยเรื่องนี้ทางกระทรวงคมนาคม และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะไปศึกษาหาวิธีการทำทางเข้าออกที่ไม่ต้องเวนคืน หรือทำให้มีกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด
ที่ผ่านมาโครงการมีความล่าช้ามานานกว่า 24 ปี โดยมีการเซ็นสัญญาตั้งแต่ปี 39 ซึ่งทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าอยากให้โครงการเกิดขึ้นเร็วที่สุด โดยทางภาคเอกชนก็พร้อมรับฟังถึงแนวทางปรับรูปแบบการย้ายสถานีขนส่งใหม่เพื่อเร่งผลักดันโครงการให้เกิดขึ้น ขณะที่กรมฯก็จะรับประโยชน์จากการเก็บค่าเช่า และยังเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจทำให้เกิดย่านธุรกิจขึ้นใหม่ รวมถึงทำให้เกิดการลงทุน และการจ้างงาน จำนวนมาก