แผนไฟฟ้าชุมชน 1933MW ACE พร้อมนำร่อง150MW
ทันหุ้น-สู้โควิด- พลังงานชี้ PDP 2018 ฉบับปรับปรุง ส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชน เปิดกรอบรับซื้อสูงถึง1933MW แต่ให้ดำเนินการนำร่องก่อน150 MWเริ่มปีหน้า เน้นเกิดประโยชน์ต่อชุมชนสูงสุด และแข่งขันราคาควบคู่ ส่วนควิกวิน ไปอยู่ในกลุ่มโรงไฟฟ้าขยายผล 100 MW รับซื้อไม่เกิน 2.44 บาท ด้าน ACE ชี้เข้าทางพร้อมลุยประมูลนำร่อง ชูมีประสบการณ์ แย้มผลงานดีต่อเนื่อง
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน และ นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้เสนอเอกสารชี้แจงแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) พ.ศ.2561-2580 ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 1 และโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน โดยระบุว่า คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแผน PDP2018 ฉบับปรับปรุง หลักๆแล้วเป็นการปรับให้สอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริม โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก รวมถึงการปรับแผนการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบและแผนการปลดโรงไฟฟ้าออกจากระบบ ของโรงไฟฟ้าหลักประเภทเชื้อเพลิงฟอสซิลบางโรง ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น โดยยังใช้หลักการและสมมติฐานเดิมตามแผน PDP2018
@รับซื้อไฟฟ้าชุมชน1,933MW
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนั้น ตามแผนจะมีกรอบการรับซื้อ 1,933 MW ในปี 2563-2567 แต่จะดำเนินการโครงการนำร่องในปริมาณไม่เกิน 150 เมกะวัตต์ อยู่บนหลักการเพิ่มศักยภาพของเชื้อเพลิงที่มีอยู่ในพื้นที่ ส่งเสริมพลังงานสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยกระดับรายได้ประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งจะประกาศเปิดรับซื้อได้ต้นปี2564 (ม.ค. 64) และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในปี2566 โดยจะมีการประเมินผลสำเร็จจากการดำเนินงานของโครงการนำร่องก่อนพิจารณาขยายผลในเป้าหมายรับซื้อส่วนที่เหลือ
นอกจากนี้ยังได้ทบทวนปรับปรุงนโยบายการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชุมชนในรูปแบบที่เกิดประโยชน์กับเกษตรกรและชุมชนสูงสุดให้โดยมี ขนาด 3-6 MW ใช้การประมูลแข่งขันด้านราคาโดยคำนึงถึงศักยภาพสายส่ง/สายจำหน่ายไฟฟ้า
นอกจากนี้ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าขยายผล ซึ่งจะให้โรงไฟฟ้า Quick win ขนาดกำลังผลิต 100 เมกะวัตต์เดิมในโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเข้ามาร่วมได้ เพื่อแก้ไขปัญหาโรงไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแล้วแต่ไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้เนื่องจากติดปัญหาสายส่งในอดีต แต่ปัจจุบันสายส่งได้รับการปรับปรุงแล้ว หรือโรงไฟฟ้าที่ยังไม่มี PPA คาดว่าจะเปิดรับซื้อได้ประมาณ 100 MW โดยนำโควต้าที่เหลือจาก SPP Hybrid ที่ถูกยกเลิก เนื่องจากไม่สามารถดำเนินได้ตามPPA ของ กกพ. มาใช้ กำหนดราคารับซื้อเบื้องต้นไม่เกิน2.44บาทต่อหน่วย ใช้วิธีการแข่งขันด้านราคาเพื่อให้ไม่ก่อให้เกิดภาระต่อผู้ใช้ไฟฟ้า คาดว่าจะประกาศรับซื้อได้ต้นปี2564
@ ACE ได้เปรียบประมูล
ด้านนายธีรวุฒิ ทรงเมตตา กรรมการบริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE ระบุว่า จากผนดังกล่าวที่มีการประมูลราคาส่งผลดีกับบริษัทที่มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าชุมชน ซึ่งจะเห็นได้จากผลงานที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล ในหลายพื้นที่ และมีอัตราการทำกำไรดีที่ดี ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้พูดคุยและช่วยเหลือชุมชนมาตลอด พร้อมที่จะประมูลทันทีเมื่อภาครัฐเปิดการรับซื้อ ขณะนี้เดียวกันการที่กลุ่มควิกวิน หรือ ผู้ที่มีโรงไฟฟ้าอยู่แล้ว ไปอยู่ในโครงการโรงไฟฟ้าขยายผล 100 MW นั้นก็ส่งผลดีทำให้คู่แข่งโรงไฟฟ้าชุมชนลดลง แม้ว่าราคา
สำหรับแนวโมผลการดำเนินงานนั้นในส่วนของกำไรปกติยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 บริษัทจะรับรู้รายได้หลังการปรับปรุงโรงไฟฟ้าเอื้อวิทยา 3 โรงไฟฟ้า รวม 26 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันปรับปรุงเสร็จและจ่ายไฟแล้วไตรมาส 3 ซึ่งจะรับรู้เต็มไตรมาส 4 และอีก 2 โรงไฟฟ้าก็จะจ่ายไฟช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งประเมินว่าโรงไฟฟ้าที่ปรับปรุงแล้ว จะมีอัตรากำไรสูงใกล้เคียงกับบริษัท 80-95%และจุดดีของ 3โรงไฟฟ้านั้นคือห่าจากโรงไฟฟ้าของบริษัทไม่ถึง 10 กิโลเมตร
ส่วนโครงการ SPP Hybrid 4โครงการ กำลังผลิตติดตั้ง 93เมกะวัตต์ขณะนี้มี SPP Hybrid 1 โครงการได้ผ่านการ EIA เรียบร้อยแล้ว เตรียมเซ้น PPA คือ โครงการโรงไฟฟ้า SPP คลองขลุง อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร กำลังการผลิตติดตั้ง 20เมกกะวัตต์ ส่วนอีก 3โครงการกำลังเร่งดำเนินการด้าน EIA อยู่
สำหรับความคืบหน้าโรงไฟฟ้าขยะที่กระบี่กำลังผลิต 6 เมกะวัตต์นั้น ปัจจุบันสร้างเสร็จแล้ว 90%เร็วกว่ากำหนดเดิมที่มีกำหนดจะจ่ายไฟช่วงไตรมาส 1/2564