งบปี 69 ใช้ยังไง? เปิดรายการลงทุนหลักของรัฐบาล ดัน ศก.-ฝ่าวิกฤตโลก

นายกฯ เผยแผนงบประมาณ 3.78 ล้านล้าน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยท่ามกลางความท้าทายโลก
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้นำเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 มูลค่า 3.78 ล้านล้านบาทต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาในวาระแรก ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการวางรากฐานเศรษฐกิจของประเทศในปีหน้า ภายใต้บริบทที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอนและความเสี่ยงหลายประการ
เศรษฐกิจไทยเติบโตระมัดระวังท่ามกลางปัจจัยเสี่ยง
รัฐบาลคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2569 จะขยายตัวในอัตรา 2.3-3.3 เปอร์เซ็นต์ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ การลงทุนจากภาคเอกชน และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียอมรับว่ายังมีปัจจัยเสี่ยงหลักที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ มาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ในด้านเงินเฟ้อ รัฐบาลประเมินว่าจะอยู่ในระดับ 0.5-1.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่ำกว่ากรอบเป้าหมายเนื่องจากราคาน้ำมันดิบโลกและมาตรการภาครัฐที่ช่วยบรรเทาค่าครองชีพ ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดคาดว่าจะเกินดุล 2.3 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
ธนาคารกลางปรับนโยบายรองรับความเสี่ยง
เพื่อรองรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น คณะกรรมการนโยบายการเงินได้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 1.75 เปอร์เซ็นต์ต่อปีในการประชุมเดือนเมษายน 2568 การปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและช่วยดูแลภาวะการเงินให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
นายกรัฐมนตรีระบุว่าภาวะการเงินโดยรวมยังคงตึงตัว และความเสี่ยงจากนโยบายการค้าโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินเพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว
นโยบายงบประมาณขาดดุลเพื่อคงเสถียรภาพ
รัฐบาลตัดสินใจใช้นโยบายงบประมาณแบบขาดดุลเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ สนับสนุนการฟื้นตัว และส่งเสริมอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นภายใต้ข้อจำกัดด้านรายได้และสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความผันผวน
ณ เดือนมีนาคม 2568 หนี้สาธารณะคงค้างมีจำนวน 12 ล้านล้านบาท คิดเป็น 64.4 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะ ขณะที่ฐานะเงินคงคลัง ณ วันที่ 30 เมษายน 2568 มีจำนวน 252,124.8 ล้านบาท
โครงสร้างงบประมาณมุ่งสมดุลระหว่างการลงทุนและค่าใช้จ่ายประจำ
งบประมาณรายจ่ายจำนวน 3.78 ล้านล้านบาทได้รับการจัดสรรอย่างมีกลยุทธ์ โดยแบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 2.65 ล้านล้านบาท หรือ 70.2 เปอร์เซ็นต์ ของงบประมาณทั้งหมด รายจ่ายลงทุน 864,077.2 ล้านบาท หรือ 22.9 เปอร์เซ็นต์ รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 123,541.1 ล้านบาท หรือ 3.3 เปอร์เซ็นต์ และรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 151,200 ล้านบาท หรือ 4.0 เปอร์เซ็นต์
การจัดสรรดังกล่าวแสดงถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการสร้างสมดุลระหว่างการรักษาความต่อเนื่องของการดำเนินงานภาครัฐและการลงทุนเพื่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว
ยุทธศาสตร์ความมั่นคงได้รับการเสริมกำลัง
รัฐบาลจัดสรรงบประมาณด้านความมั่นคง 415,327.9 ล้านบาท หรือ 11 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณทั้งหมด เพื่อแก้ไขปัญหาในหลายมิติ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับงบประมาณ 1,475 ล้านบาท
งบประมาณส่วนนี้มุ่งเน้นการสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ขยายโอกาสการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม ส่งเสริมการเรียนรู้และการใช้ภาษาที่หลากหลาย และระงับยับยั้งการบ่มเพาะทางความคิดที่อาจบิดเบือนจากหลักศาสนา
การต่อสู้กับยาเสพติดและภัยธรรมชาติ
ในด้านการป้องกันปราบปรามยาเสพติด รัฐบาลจัดสรรงบประมาณ 5,462.3 ล้านบาท เพื่อดำเนินการอย่างครอบคลุมตั้งแต่การสร้างความรู้เท่าทันให้กับเด็ก เยาวชน ผู้ใช้แรงงาน และประชาชน ไปจนถึงการจับกุมผู้ผลิต ผู้ค้า และผู้มีอิทธิพล รวมถึงการให้ความช่วยเหลือผู้เสพยาเสพติดที่เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา
สำหรับการเตรียมพร้อมแห่งชาติและระบบบริหารจัดการภัยพิบัติ รัฐบาลจัดสรรงบประมาณ 26,685.5 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบเตือนภัยให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงภัยทั่วประเทศ พร้อมทั้งสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งความยาวไม่น้อยกว่า 261,600 เมตร
ซอฟต์พาวเวอร์เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่
รัฐบาลให้ความสำคัญกับการผลักดันอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ผ่านงบประมาณ 4,044.5 ล้านบาท เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจของประเทศ การลงทุนนี้มุ่งเน้นการผลักดันทุนทางวัฒนธรรมที่มีศักยภาพให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์
โครงการสำคัญภายใต้ยุทธศาสตร์นี้ประกอบด้วย การสร้างเครือข่ายความร่วมมือและเครือข่ายธุรกิจ การสนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ไทยเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศในระดับสากล และการสนับสนุนสิทธิประโยชน์และแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
วิสัยทัศน์การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
นายกรัฐมนตรียืนยันว่างบประมาณฉบับนี้มีเป้าหมายชัดเจนในการฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติ การดำเนินงานจะครอบคลุมหลายด้าน ทั้งการสร้างความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม การดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการปรับปรุงระบบราชการให้มีประสิทธิภาพ
งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าได้อย่างมั่นคงท่ามกลางความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก โดยมุ่งหวังให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายงบประมาณอย่างแท้จริงและเกิดผลสัมฤทธิ์ในการพัฒนาประเทศอย่างเป็นรูปธรรม