รายได้ 'ภาษีศุลกากร' สหรัฐ พยุงงบขาดดุล

ซีเอ็นบีซีรายงานว่า รัฐบาล “สหรัฐ” เข้าสู่ภาวะขาดทุนมากขึ้นในเดือน พ.ค. โดยกระทรวงการคลังรายงานวานนี้ว่าปัญหาหนี้สินและงบประมาณที่ขาดดุลกำลังแย่ลงเรื่อยๆ
ทั้งนี้ หลังจากที่สหรัฐเกินดุลเพียงช่วงสั้นๆ ในเดือนเม.ย. เนื่องจากได้รายได้ในช่วงฤดูภาษี แต่การขาดดุลรวมในเดือนพ.ค.อยู่ที่ประมาณ 3.16 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดรวมการขาดดุลตั้งแต่ต้นปีสูงถึง 1.36 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วถึง 14%
นอกจากนี้ ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถานการณ์การคลังแย่ลง ดอกเบี้ยสำหรับหนี้สาธารณะที่สูงถึง 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ พุ่งไปอยู่ที่ 9.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสุทธิสูงกว่าค่าใช้จ่ายด้านอื่น ๆ ทั้งหมด
ขณะที่รายจ่ายเพิ่มขึ้น 2% ต่อเดือน และเพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อนรายได้จากการเก็บภาษี ในเดือนพ.ค.กลับเพิ่มขึ้นถึง 15% และเมื่อเทียบกับปีก่อนก็เพิ่มขึ้น 6%
อย่างไรก็ตามภาษีศุลกากรของสหรัฐพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤษภาคม โดยช่วยลดการขาดดุลงบประมาณในเดือนนี้ลงได้
กระทรวงการคลังได้บันทึกรายได้จากภาษีศุลกากรในเดือนพ.ค.ไว้ที่ 23,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 17,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 270% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนและสูงกว่าค่าเฉลี่ยรายเดือนของปี 2567 ถึง 3 เท่า
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังได้ออกมาเตือนว่า สหรัฐจะเผชิญกับการขาดดุลงบประมาณครั้งใหญ่ในปีงบประมาณปัจจุบัน โดยเขาได้แจ้งต่อสมาชิกสภาคองเกรสว่า ช่องว่างดังกล่าวจะสูงถึง 6.5% ถึง 6.7% ของ GDP ซึ่งถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่การขาดดุลเกิน 6% และเบสเซนต์ตั้งเป้าที่จะลดช่องว่างนี้ให้เหลือ 3%
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
