ฉลอง 10 ปี LG OLED ! ส่งตัวท็อป evo 4K 97 นิ้ว 999,990 บาท เปิดตลาดลูกค้าไฮเอนด์
เปิดตัว 47 ไลน์อัพทีวีปี 2023 ที่ครอบคลุมทุกความต้องการ พร้อมก้าวสู่ทศวรรษต่อไปอย่างแข็งแกร่ง
บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ฉลอง 10 ปี แห่งความเป็นผู้นำนวัตกรรมโอเล็ดทีวี (OLED TV) เปิดตัวไลน์อัพทีวีใหม่ล่าสุดประจำปี 2023 กว่า 47 รุ่น เมื่อ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมดัน LG OLED evo 4K ซีรีส์ G2 ขนาด 97 นิ้ว ซึ่งเป็นทีวี OLED 4K ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มาเปิดตัวในงานด้วย
เปิดตัวไลน์อัพใหม่ของ OLED TV ของ LG
ในการฉลองครบรอบ 10 ปี ของ OLED TV ของแอลจี ได้มีการเปิดราคาสินค้ารุ่นใหม่ของบริษัท ดังนี้
- แอลจี โอเล็ด อีโว โฟร์เค (LG OLED evo 4K) ซีรีส์ G2 ขนาด 97 นิ้ว ราคา 999,990 บาท
- แอลจี สแตนด์บายมี (LG StanbyME) นวัตกรรมผสมระว่าง ราคา 44,990 บาท
- แอลจี โอเล็ด โพเซ่ (LG OLED Posé) ขนาด 55 นิ้ว ราคา 67,990 บาท
- แอลจี โอเล็ด (LG OLED) 4 ซีรีส์ 11 รุ่น ขนาด 48-88 นิ้ว ช่วงราคา 49,990 – 999,990 บาท
- แอลจี คิวเน็ด (LG QNED) 3 ซีรีส์ 10 รุ่น ในขนาด 55-86 นิ้ว ช่วงราคา 24,990 – 149,990 บาท
- แอลจี นาโนเซลล์ (LG NanoCell) 2 ซีรีส์ 8 รุ่น และแอลจี ยูเอชดี (LG UHD) ทั้งหมด 4 ซีรีส์ 15 รุ่น ช่วงราคา 12,990 – 84,990 บาท
10 ปีแห่งนวัตกรรม OLED TV ของ LG
ในการเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ในวาระ 10 ปี ของเทคโนโลยี OLED TV ของ LG ได้มีการเสริมทัพด้วยจอไลฟ์สไตล์รุ่นใหม่อีก 2 รุ่น ได้แก่ LG OLED Posé ที่มอบภาพคมชัดผ่านหน้าจอ OLED evo ในดีไซน์การออกแบบที่สวยและลงตัวสำหรับทุกสไตล์การตกแต่งห้อง และ LG StanbyME จอสัมผัสที่เคลื่อนที่ได้อิสระวางจำหน่ายในตลาดประเทศไทย
นอกจากทีวีรุ่นใหม่แล้ว แอลจียังได้เสริมประสบการณ์ความบันเทิงด้านภาพและเสียงให้ล้ำยิ่งขึ้น ปรับปรุงหน้าจอให้มีความสวยและสีสันสว่างสมจริง และสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วยพาเนล (Panel) หน้าจอหลายแบบทั้ง OLED, QNED, NanoCell และ UHD
ตลาด OLED TV ในประเทศไทยผ่านมุมมองของ LG
คุณซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การนำเสนอผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่นออกสู่ตลาด เกิดจากความตั้งใจที่ส่งมอบประสบการณ์ความบันเทิงเหนือระดับและไม่ซ้ำใครให้แก่ผู้บริโภค โดยมีหัวใจสำคัญคือการพัฒนาด้านนวัตกรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง สอดคล้องกับแนวคิด “Innovation for a Better Life” แอลจีจะเดินหน้านำเสนอนวัตกรรมทีวีที่ก้าวล้ำ เพื่อก้าวต่อไปอย่างแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้าน OLED ตัวจริง”
คุณอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แอลจีเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดทีวีพรีเมียมของประเทศไทยมาตลอด 10 ปี และมีส่วนแบ่งการตลาดในเซกเมนต์นี้สูงถึง 75% ในปีที่ผ่านมา”
นอกจากนี้ คุณอำนาจยังกล่าวอีกว่า “ในปีนี้เรามุ่งมั่นนำเสนอไลน์อัพทีวีหลากหลายรุ่น ที่นำโดยนวัตกรรมทีวี OLED 4K พร้อมกับประเดิมตลาดทีวีไลฟ์สไตล์เป็นครั้งแรก ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไทย และมียอดขายในกลุ่มทีวี OLED เพิ่มขึ้น 60% รวมถึงเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของแอลจีในตลาดทีวีโดยรวมถึง 21% ภายในปี 2023”
แนวคิดการพัฒนา OLED TV ของ LG
แอลจี ชู 5 แนวคิด ในการพัฒนาทีวีที่เพิ่มขึ้นในปี 2023 ได้แก่
1. อัปเกรดชิปประมวลผลด้วยเทคโนโลยี AI
ในปีนี้มีทีวี LG OLED ทั้งหมด 3 ซีรีส์ ที่ได้รับการอัพเกรดชิปประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ลฟ่าไนน์ (α9 AI Processor) เป็นรุ่นที่ 6 ได้แก่ LG OLED 8K evo, LG OLED evo 4K ซีรีส์ G3 และ C3 เพื่อช่วยประมวลผลการแสดงมิติเฉดสีภาพขาว - ดำ ทิศทางเสียง และความสว่างภาพ
2. เพิ่มความส่างและความคมชัด 70%
แอลจีนำเสนอฟีเชอร์ Brightness Booster Max เพิ่มความสว่างบนจอภาพ 70% ในทีวี และทุกรุ่นจะมาพร้อมเทคโนโลยี Eye Comfort Display ที่ช่วยลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตา และลดการสะท้อนแสงภาพเพื่อการรับชมต่อเนื่องโดยไม่เมื่อยสายตา
3. รับประกันคุณภาพและความน่าเชื่อถือ
จากการทดสอบโดย RTINGS.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ด้านการทดสอบคุณภาพของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ พบว่า LG OLED TV ลดอาการเบิร์นอิน (Burn-in) ของจอภาพ เนื่องจากจอ OLED ของแอลจีใช้การทำงานของเม็ดพิกเซล 4 สี (RGBW) ทำให้ไม่ต้องใช้เม็ดพิกเซลหลายสีรวมกันเป็นสีขาว เกิดอาการ Burn-in ได้ยากกว่าทีวีที่ใช้งานเม็ดพิกเซลเพียงแค่ 3 สี (RGB)
4. การออกแบบที่สวยและลงตัวกับทุกการใช้งาน
แอลจี เปิดตลาดไลฟ์สไตล์ทีวีในปี 2023 ผ่าน LG OLED Posé ขนาด 55 นิ้ว สวยงามลงตัวทุกมุมมอง และเปิดตัว LG StanbyME จอสัมผัสเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระด้วยล้อลากและแบตเตอรี่ในตัว และจอภาพที่ออกแบบมาให้ปรับหมุนได้ ซึ่งเป็นการสร้างสินค้าแบบใหม่ตามไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายมากขึ้นในปัจจุบัน
5. เน้นประสบการณ์ของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ
นอกจากการเปิดตัวสินค้าใหม่แล้ว ทีวีแอลจีรุ่นปี 2023 ยังได้รับการอัปเดตระบบปฏิบัติการ webOS 23 เน้นหน้าตาการใช้งาน (User Interface) ที่เรียบง่ายและเป็นสัดส่วนมากขึ้น จัดหน้าจอแบบควิก การ์ด (Quick Cards) ค้นหาคอนเทนต์ที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็ว พร้อมฟีเชอร์ Quick Settings ยังช่วยให้ตั้งค่าฟังก์ชันที่ใช้งานบ่อยได้
แอลจียังได้จัดการให้ฟีเชอร์โฮมฮับ (Home Hub) รองรับการเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์ IoT ภายในบ้านผ่านแอปพลิเคชัน LG ThinQ และมีฟีเจอร์ Game Optimizer ที่สามารถตั้งค่าการเล่นได้โดยไม่ต้องเสียเวลาหยุดหรือออกจากเกมอีกด้วย
ที่มาข้อมูล LG Newsroom