รีเซต

"ราคาทอง" พุ่งต่อ หลังดัชนีเชื่อมั่นเพิ่ม 18.99% "ศูนย์วิจัยทองคำ" ระบุราคาเพิ่มขึ้นต่ำค่าเฉลี่ย 20 ปี

"ราคาทอง" พุ่งต่อ หลังดัชนีเชื่อมั่นเพิ่ม 18.99% "ศูนย์วิจัยทองคำ" ระบุราคาเพิ่มขึ้นต่ำค่าเฉลี่ย 20 ปี
TNN ช่อง16
21 เมษายน 2568 ( 10:25 )
14

ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 21-25 เม.ย.68 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ โดย 13 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 7 ราย หรือเทียบเป็น 54% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 2 ราย หรือเทียบเป็น 15% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 4 ราย หรือเทียบเป็น 31% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 340 ราย ในจำนวนนี้มี 213 ราย หรือเทียบเป็น 62% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 91 ราย หรือเทียบเป็น 27% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 36 ราย หรือเทียบเป็น 11% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้สถานการณ์ราคาทองคำ ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 51,050 – 52,550 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 52,450 บาท ต่อบาททองคำ เพิ่มขึ้น  1,250 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 51,200 บาท)

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

1. ความคืบหน้าของการเจรจาการค้าสหรัฐฯ กับประเทศพันธมิตร นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แสดงความมั่นใจว่าการเจรจากับ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป (EU) กำลังมีพัฒนาการที่ดี และอาจนำไปสู่ข้อตกลงการค้าในอนาคตอันใกล้ ความหวังในการลดความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างประเทศ สร้างมุมมองเชิงบวกในตลาด ซึ่งอาจกระตุ้นให้เงินทุนไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง และเป็นแรงกดดันต่อราคาทองคำในระยะสั้น

2. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการ (เบื้องต้น), ดัชนีความเชื่อมั่นและการคาดการณ์เงินเฟ้อในมุมมองของผู้บริโภคเดือน เมษายน 2568, รายงาน Beige Book ของ FED รวมทั้งตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ในขณะที่ ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวถึงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือน เมษายน 2568 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 75.25 เพิ่มขึ้น 0.77 จุด หรือคิดเป็น 1.03% จากเดือนมีนาคม อยู่ที่ 74.48 จุด โดยได้แรงหนุนจาก ความต้องการซื้อทองคำสินในฐานะทรัพย์ปลอดภัย จากนโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นโยบายอัตราดอกเบี้ยของ FED และความตึงเครียดของสงครามการค้า ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกถดถอย และความต้องการทองคำของธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ

โดยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 (เม.ย.–มิ.ย.) ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 จากระดับ 56.12 จุด มาอยู่ที่ระดับ 66.78 จุด เพิ่มขึ้น 10.66 จุด หรือคิดเป็น 18.99% ขณะที่ผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำคาดการณ์กรอบราคาทองคำ gold spot ในเดือน เมษายน เฉลี่ยบริเวณ 2,914 – 3,171 ดอลลาร์

และราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 49,100 – 51,900 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาทองคำ ณ ปัจจุบัน ได้ปรับขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก เหตุจากสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้

ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ราคาทองคำจะปรับเพิ่มขึ้นเร็วและแรงเกินไป แต่หากจะย้อนดูราคาในช่วงที่เกิดวิกฤตในช่วงที่ผ่านมา ยังถือว่าไม่ผิดปกติ เพราะเมื่อปีที่ผ่านมาราคาทองคำ gold spot ขยับในกรอบประมาณ 28% ส่วนราคาทองคำไทยปรับเพิ่ม กว่า 13% และหากจะย้อนไปดูในปี 2554 ที่เกิดวิกฤตซับไพรม์ ราคาทองคำ gold spot ปรับเพิ่มได้ถึง 53% และหากมาดูค่าเฉลี่ยในระยะ 20 ปีที่ผ่านมาราคาทองคำ gold spot ขยับเฉลี่ย 31%

ดังนั้น หากจะวัดจากต้นปีโดยวันที่ 2 ม.ค. ราคาทองคำ gold spot อยู่ที่ 2,616 ดอลลาร์ หากปรับเพิ่ม 30 เปอร์เซ็นต์ ราคาทองคำ gold spot จะอยู่ที่ 3,400 ดอลลาร์ จะเห็นได้ว่าราคาในปัจจุบันยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อย

หากจะมองราคาทองคำไทย เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ อยู่ที่ 42,550 บาท หากราคาปรับขึ้นได้ 23.5% ก็จะตรงกับราคา 52,550 บาท แต่หากมองว่าราคาทองคำไทยขยับได้ 30% เท่ากับราคาทองคำ gold spot จะเห็นราคาทองคำอยู่ที่ 55,300 บาท

และหากไปมองทางเทคนิค จะเห็นได้ว่า ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นสลับย่อตัวสั้น เพื่อผ่อนคลายอินดเคเตอร์บางตัว ทำให้ราคาได้ปรับขึ้นทำ ATH ต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นการคาดการณ์ราคาทองคำในอนนคตอาจจะต้องนำสถิติเก่า ๆ มาใช้ในการวิเคราะห์ และคาดการณ์ โดยราคาทองคำไทยอาจจะไปได้ถึง 53,000 – 53,500 บาท

อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์ของราคาทองคำที่มีความผันผวนสูง นักลงทุนควรระมัดระวังและวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ โดยใช้กลยุทธ์ทยอยซื้อสะสมในจังหวะที่ราคาทองคำย่อตัว และแบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในระดับแนวต้านสำคัญ

โดยแนวรับแถว 51,000 -51,500 บาท อาจจะทยอยสะสม โดยราคาทองคำ gold spot อาจจะอยู่แถว 3,300 ดอลลาร์ แนวรับถัดไปแถว 50,500 บาท หรือ 3,185 ดอลลาร์

ส่วนแนวต้านแรก จะเป็นแถว 3,400 ดอลลาร์ และหากทองคำพปรับเพิ่มระดับ 35% อาจจะได้เห็นไปแตะ 3,530 ดอลลาร์ หรือหากราคาปรับขึ้นได้ถึงระดับเดียวกันกับช่วงวิกฤตซับไพร์ม อาจจะเห็นราคาทองคำ gold spot แตะระดับ 4,000 ดอลลาร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง