สรุปครบทุกประเด็น "กัน จอมพลัง" แถลงเคลียร์ปมร้อนมูลนิธิ - ยอดเงินบริจาค

"กัน จอมพลัง" เปิดโต๊ะเคลียร์ทุกข้อสงสัย

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวครั้งสำคัญร่วมกับ ทนายอีฟ กาญจนา สถาวร  (ประธานมูลนิธิฯ) และนักตรวจสอบบัญชี เพื่อชี้แจงทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใสของ "มูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้" โดยเฉพาะปมร้อนเรื่องเงินบริจาค และ ข้อบังคับที่พาดพิงถึงนักการเมือง ท่ามกลางการจับตาจากสาธารณชน และ การซักถามอย่างละเอียด จากผู้ที่เคยเปิดประเด็น เช่น ไอซ์ รักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน , บอส ณวัฒน์ อิสรไกรศีล และ น้ำขิง ชุติกาญจน์

ประเด็นที่ 1 เปิดยอดบริจาค 207 ล้าน และความโปร่งใสทางการเงิน

กัน จอมพลัง เริ่มต้นงานแถลงด้วยการแสดงความโปร่งใสทางการเงิน โดยระบุว่า มูลนิธิฯ ก่อตั้งจาก ทุนตั้งต้น 500,000 บาท ซึ่งเป็นเงินลงขันของกลุ่มเพื่อน และไม่ได้มีการ “เรียกรับเงินก่อนจดทะเบียน” อย่างที่มีการกล่าวอ้าง

- ยอดเงินบริจาครวมทั้งหมด: 207,350,262.04 บาท

- ยอดเงินที่ใช้จ่ายไปแล้ว: 117,673,106.02 บาท

- ยอดเงินคงเหลือในบัญชี: 90,177,156.02 บาท

การชี้แจงเรื่องการเบิกจ่ายมูลนิธิกัน จอมพลัง

ทนายอีฟ กาญจนา สถาวร   ประธานมูลนิธิฯ ยืนยันหนักแน่นว่า “มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ไม่มีการเบิกถอนเงินสดจากธนาคารแม้แต่ครั้งเดียว” เพราะตามกฎของมูลนิธิกำหนดให้ต้องมีกรรมการถึง 3 คนร่วมลงชื่อพร้อมกันเพื่อถอนเงินสด ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้น การจ่ายเงินจะทำผ่านการโอนตรงเข้าบัญชีร้านค้า หรือใช้เจ้าหน้าที่เป็น "ตัวกลาง" รับเงินผ่าน QR Code แล้วโอนต่อในยอดที่เท่ากันเท่านั้น โดยทุกขั้นตอนมีใบเสนอราคาและการตรวจสอบภายในทุกเดือน

ประเด็น “เงินติดลบ”

ฝ่ายบัญชีชี้แจงว่า ยอดคงเหลือ 90 ล้านบาท เป็นยอดก่อนหัก "ยอดรอจ่าย" ในโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น การสร้างถนนและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งมียอดรวมกว่า 94,450,000 บาท ซึ่งเป็นที่มาของคำว่าเงินติดลบที่เคยกล่าวถึงก่อนหน้า

ประเด็นที่ 2 เคลียร์ปม “มูลนิธิธรรมนัสฯ” และ การแก้ไขข้อบังคับ

ประเด็นที่สร้างความกังขาที่สุดคือ ข้อบังคับข้อ 39 ที่ระบุว่า หากมูลนิธิฯ เลิกกิจการ ทรัพย์สินจะต้องตกเป็นของ “มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า”

ทนายอีฟ กาญจนา สถาวร และผู้ตรวจสอบบัญชีอธิบายว่า ข้อ 39 เป็นข้อบังคับที่ทุกมูลนิธิต้องมีตามกฎหมาย เพื่อระบุ "ปลายทางตามเงื่อนไขทางเอกสาร" โดยยืนยันว่า ปัจจุบันมูลนิธิฯ ยังไม่ได้เลิกกิจการ จึงไม่มีการโอนทรัพย์สินใด ๆ ออกไป และตลอดมาก็ ไม่เคยมีการโอนเงินออกไปให้มูลนิธิธรรมนัสฯ แม้แต่บาทเดียว

ทำไมต้องเป็น “มูลนิธิธรรมนัสฯ”

ทนายอีฟ อธิบายว่า ในการจัดตั้งต้องระบุชื่อมูลนิธิที่มีวัตถุประสงค์ใกล้เคียงกันไว้รองรับ ซึ่งในขณะนั้นประเมินว่ามูลนิธิธรรมนัสฯ ทำงานในแนวทางเดียวกันมากที่สุด ด้าน กัน จอมพลัง กล่าวเสริมว่า การตัดสินใจมาจากการที่ตนเห็นการทำงานของมูลนิธิดังกล่าวในพื้นที่แม่สาย แต่ยอมรับว่า ไม่ได้แจ้งคุณธรรมนัส พรหมเผ่าโดยตรง คุยเพียงกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิเท่านั้น

การแก้ไขปัญหาอย่างไร?

เพื่อยุติข้อสงสัยทั้งหมด กัน จอมพลัง ยืนยันว่า จะเร่งดำเนินการ แก้ไขข้อบังคับข้อ 39 โดยทันที เพื่อเปลี่ยนผู้รับช่วงต่อทรัพย์สินไปเป็นองค์กรสาธารณกุศลอื่นที่น่าเชื่อถือ

“กัน จอมพลัง ” ตอบสาธารณชน ทำไมไม่นั่งปธ.เองตั้งแต่แรก?

กัน จอมพลัง ชี้แจงว่า เจตนาแรกคือต้องการให้ชื่อ "กัน จอมพลัง" ช่วยเหลือคนต่อไปได้ แม้ตนจะไม่อยู่แล้ว และมองว่าการไม่ถืออำนาจประธานไว้กับตัวเองจะช่วยเพิ่มความโปร่งใส แต่เพื่อตอบรับความต้องการของสังคมที่อยากให้มีอำนาจตรวจสอบเต็มที่ จึงตัดสินใจประกาศนั่งเป็นประธานมูลนิธิฯ เอง

ตอบคำถาม “ไอซ์ รักชนก” ปมสัมพันธ์  ร.อ. ธรรมนัส

ไอซ์ รักชนก ได้ ตั้งคำถามถึงพฤติกรรมที่แสดงความสนิทสนมกับ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า และตั้งข้อสงสัยว่า กัน จอมพลัง อาจกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองของพรรคกล้าทำ กัน จอมพลัง ยืนยันว่า ไม่ได้ปฏิเสธความสนิทสนม แต่ยืนยันว่า “สนิทกับทุกคนที่ช่วยสังคม” ไม่ได้จำกัดพรรคการเมือง และย้ำว่า “ผมไม่ได้อะไรเลยจากเรื่องนี้”

“บอส ณวัฒน์” กังขาปมไม่เปิดตัวทนายอีฟ

บอส ณวัฒน์ ตั้งคำถามถึงการที่มูลนิธิฯ ไม่เคยเปิดตัวทนายอีฟในฐานะประธานและไม่ชี้แจงข้อ 39 ตั้งแต่แรก ทำให้เกิดปัญหาความเชื่อมั่น โดยเจ้าตัวชี้แจงว่า ตนอยู่ในการทำงานมาตลอด แต่ไม่ได้ออกสื่อ เพราะเมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ถือว่าได้แจ้งต่อสาธารณะแล้ว

“น้ำขิง ชุติกาญจน์” ถามปมช่วยทหาร

“น้ำขิง ชุติกาญจน์” ผู้เข้าประกวด MUT ได้ คำถามว่าหน่วยงานทหารบางแห่งไม่ได้ขาดแคลนสิ่งของ แต่ทำไมมูลนิธิฯ ยังเข้าไปช่วย กัน จอมพลัง ยืนยันว่า การทำงานทุกครั้งมี "หนังสือขอความอนุเคราะห์" อย่างเป็นทางการจากหน่วยงานที่ร้องขอความช่วยเหลือ และดำเนินการตามขอบเขตที่ได้รับการร้องขอเท่านั้น ไม่ได้ทำโดยพลการ

บทสรุปและมาตรการรับผิดชอบจาก “กัน จอมพลัง”

กัน จอมพลัง สรุปทิ้งท้ายด้วยการขอโทษที่ความ “คิดน้อย” ในการทำเอกสารบางอย่างทำให้เกิดความไม่สบายใจต่อประชาชน และแสดงความรับผิดชอบสูงสุด โดยมีมาตรการสำคัญ ด้วยการ เข้าดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิฯ ด้วยตนเอง , แก้ไขข้อบังคับข้อ 39 โดยทันที และ ยื่นเรื่องต่อกระทรวงมหาดไทย ในวันจันทร์ เพื่อขอให้ตรวจสอบมูลนิธิฯ ทั้งหมดอย่างเป็นทางการ ตลอดจน หยุดเปิดรับบริจาคชั่วคราว จนกว่ากระบวนการตรวจสอบทั้งหมดจะเสร็จสิ้น

เขาย้ำว่า หากผู้บริจาครู้สึกไม่สบายใจและต้องการขอเงินคืนจริง ๆ ตนพร้อมชดใช้จากเงินส่วนตัว และ ยืนยันว่า การทำงานของเขาคือ "อีกวิธีหนึ่งในการช่วยประเทศชาติ" โดยการลงมือทำจริงในพื้นที่ที่รัฐยังเข้าไม่ถึง ไม่ใช่การแทนที่รัฐบาล.