รีเซต

“พิชัย”ยอมรับนักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย

“พิชัย”ยอมรับนักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย
ทันหุ้น
10 กุมภาพันธ์ 2568 ( 13:31 )
18

 

 

“พิชัย”ยอมรับนักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย เหตุภาพความไม่ชัดเจนจากภาวะเศรษฐกิจโลก ส่งผลกระทบต่อการลงทุนและบริโภค ขณะที่ รัฐบาลเร่งฟื้นความเชื่อมั่นด้วยการสนับสนุนลงทุนเพิ่ม ระบุ นโยบายทรัมป์ยังไม่ชัดเจน หนุนแนวคิดขยายกรอบก่อหนี้เพิ่ม

 

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า การผลักดันเศรษฐกิจไทยให้สามารถขยายตัวได้ถึง3.5%ในปีนี้นั้น อยู่ที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งปัจจุบันความเชื่อมั่นในประเทศไทยยังน้อย แม้ในช่วงที่ผ่านมาอาจจะมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นมาบ้างก็ตาม โดยสาเหตุที่ความเชื่อมั่นในประเทศไทยยังน้อย มาจากภาพของเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ชัดเจน ไม่มีความแน่นอน ทำให้นักลงทุนไม่ตัดสินใจ ขณะที่ ผู้บริโภคก็บริโภคน้อยลง

 

ส่วนการที่จะทำให้ความเชื่อมั่นในประเทศไทย กลับคืนมานั้น นายพิชัย กล่าวว่า เราจำเป็นต้องทำในหลายรูปแบบ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเราได้พยายามทำในหลายเรื่องเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นให้กลับมา ซึ่งตนพยายามจะเร่งให้เกิดการลงทุนในประเทศ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน ซึ่งขณะนี้ก็มีโครงการลงทุนหลายโครงการที่เตรียมจะลงทุนจริง โดยอยู่ในระหว่างการหาพื้นที่ก่อสร้างโครงการ

 

เขายังกล่าวถึงนโยบายของทรัมป์ ที่จะขึ้นภาษีนำเข้าว่า ขณะนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเดินอย่างไร แม้แต่นักธุรกิจอเมริกันที่ตนได้พูดคุยด้วยก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่านโยบายทรัมป์จะเดินหน้าอย่างไร ส่วนที่สหรัฐต้องการให้ประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐต้องนำเข้าสินค้าจากสหรัฐมากขึ้นนั้นว่า อย่าเรียกว่า เป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้นเลย แต่เป็นการนำเข้าสินค้าที่เราต้องการ แต่ต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม ซึ่งสินค้าหลายอย่างของสหรัฐก็เป็นสินค้าที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม

 

เขายังกล่าวถึงข้อเสนอของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)ที่ขอให้รัฐบาลขยายเพดานหนี้สาธารณะของรัฐบาล ให้สูงกว่า 70%ของจีดีพีว่า ในส่วนตัวนั้น ตนเห็นด้วย เพราะภาระหนี้สาธารณะที่สูงขึ้น ทำให้รัฐบาลมีความสามารถในการก่อหนี้ได้น้อยลง

 

อย่างก็ตามนายพิชัย กล่าวว่า ก่อนที่เราจะขยายเพดานการก่อหนี้ให้สูงขึ้น เราจำเป็นต้องบริหารฝั่งรายรับและรายจ่ายให้มีประสิทธิภาพก่อน โดยจะต้องปรับปรุงระบบงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ ขณะที่ การจัดเก็บภาษี จะต้องทำอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ซึ่งหากเราสามารถบริหารจัดการดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเศรษฐกิจไทยขยายตัวสูงขึ้น เราก็อาจไม่จำเป็นต้องขยายเพดานการก่อหนี้ก็ได้

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง