เปิดผลงาน “นายกฯแพทองธาร” เยือนอังกฤษ -โมนาโก เดินเกมเศรษฐกิจ

“แพทองธาร” เยือนอังกฤษ -โมนาโก 4 วัน เดินเกมเศรษฐกิจ เสนอจัด F1 – ดัน Soft Power – เร่ง FTA – ดึงนักท่องเที่ยวยุโรป
รัฐบาลเผยภารกิจสำคัญของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการเยือนอังกฤษและราชรัฐโมนาโก ระหว่างวันที่ 21–25 พฤษภาคม 2568 ประสบผลสำเร็จ 4 ด้านหลัก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่เวทีโลก ทั้งการผลักดันจัดแข่งขัน Formula 1, ยกระดับ Soft Power ไทย, เร่งเจรจา FTA กับอังกฤษ และกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวยุโรประดับพรีเมียม
F1 “Sustainable” ไทย ลุ้นจัดแข่งในปี 2571 รายได้แตะแสนล้าน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาล ระบุว่า หนึ่งในผลสัมฤทธิ์สำคัญคือการที่นายกรัฐมนตรีเสนอแนวคิดจัดการแข่งขัน รถสูตรหนึ่ง (Formula 1) ในประเทศไทย โดยจะเน้นรูปแบบ “Sustainable F1” หรือการจัดการแข่งขันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดรับกับแนวทาง Green Economy ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริหารระดับสูงของ F1
การจัดการแข่งขัน F1 จะสามารถดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนในประเทศและต่างประเทศ รวมมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาทและยังสร้างรายได้ในหลากหลายมิติ อาทิ
- ค่าตั๋วเข้าชมการแข่งขัน
- รายได้จากลิขสิทธิ์การออกอากาศ
- ค่าสิทธิสนาม
- สปอนเซอร์
- รายได้จากกิจกรรมประกอบ เช่น คอนเสิร์ต งานแสดงสินค้า เทคโนโลยี และยานยนต์
- การกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวและโรงแรมที่พัก
รัฐบาลเตรียมเสนอเรื่องนี้เข้าสู่ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 4 มิถุนายนนี้ เพื่อพิจารณาหลักการดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ โดยคาดว่าจะสามารถผลักดันให้ไทยเป็น 1 ใน 24 สนามแข่งระดับโลกได้ภายในปี พ.ศ. 2571
ผลักดัน Soft Power มวยไทย-อาหารไทย-สปาไทย สู่เวทีโลก
อีกหนึ่งภารกิจสำคัญคือการส่งเสริม Soft Power ไทย ซึ่งมีจุดแข็งอย่าง มวยไทย อาหารไทย และสปาไทย โดยเฉพาะมวยไทยซึ่งถือเป็น มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ที่สามารถต่อยอดเป็นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
นายกรัฐมนตรีมีแนวทางชัดเจนที่จะจัดตั้ง องค์กรหรือสถาบันกลางที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เพื่อกำหนด มาตรฐานกลางในการฝึกสอนและจัดการแข่งขันมวยไทย รวมถึงรับรองมาตรฐานบุคลากรในวงการ เช่น ครูมวย นักมวย กรรมการ พี่เลี้ยง ผู้จัดการ และสถานที่ฝึกซ้อม
พร้อมกันนี้ยังผลักดันการสร้าง แพลตฟอร์มออนไลน์ ที่เชื่อมโยง ยิมมวยไทยในต่างประเทศ เข้ากับเครือข่ายในประเทศไทยอย่างเป็นระบบ เพื่อส่งออกองค์ความรู้และทักษะต่อยอดเป็นโอกาสทางอาชีพในระดับโลก
เร่งเครื่อง FTA ไทย-อังกฤษ แก้ปัญหาส่งออก-ภาษี-โลจิสติกส์
นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตรฯ เร่งเจรจาเพื่อจัดทำ ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับอังกฤษ หรือในรูปแบบ Mini-FTA เพื่อลดอุปสรรคทางการค้า โดยเฉพาะการ:
- ปรับลดโควตาสินค้านำเข้า
- ลดภาษีศุลกากร
- ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร
- อำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกสินค้าของไทย เช่น ผลไม้ อาหารแปรรูป และสินค้าเกษตร ไปยังสหราชอาณาจักรและขยายสู่ตลาดสหภาพยุโรปในระยะถัดไป
จับมือสายการบิน-บริษัทนำเที่ยว ดึงนักท่องเที่ยวยุโรประดับพรีเมียม
ผลสัมฤทธิ์ด้านสุดท้ายคือการผลักดันการท่องเที่ยวจากตลาดยุโรป โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับ “ไฮเอนด์ (Luxury Tourism)” ซึ่งมีกำลังซื้อสูง โดยนายกรัฐมนตรีได้รับการตอบรับจากบริษัทท่องเที่ยวรายใหญ่ เช่น Trailfinders, Emiratesและสายการบินนานาชาติในการขยายเที่ยวบินเชื่อมไทย-ยุโรป
นักท่องเที่ยวยุโรปเริ่มมองประเทศไทยเป็น “Hub” ของการเดินทางในเอเชีย ซึ่งเป็นโอกาสในการส่งเสริมการจัด แพ็กเกจท่องเที่ยวแบบหรูหรา (Premium Package) โดยบูรณาการระหว่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับภาคเอกชนของยุโรป
4 วันของภารกิจรัฐ ยกระดับไทยบนเวทีโลก
แม้การเดินทางในครั้งนี้จะใช้เวลาสั้นเพียง 4 วัน แต่นายกรัฐมนตรีมุ่งเน้นการทำงานเพื่อผลลัพธ์อย่างแท้จริง ไม่ให้ความสำคัญกับกระแสโจมตีในโลกโซเชียลที่ไร้มูลความจริง พร้อมตั้งเป้าให้การเยือนในครั้งนี้เป็นหมุดหมายสำคัญในการ ต่อยอดวาระแห่งชาติ Soft Power สร้างชาติ และ เตรียมบทบาทการเป็นเจ้าภาพเวทีระดับโลกในอนาคต
นายจิรายุกล่าวว่า ภารกิจครั้งนี้ยังสะท้อนภาพประเทศไทยในฐานะประเทศที่พร้อมก้าวสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ใช้กีฬา การท่องเที่ยว และวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างสร้างสรรค์ในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ท้าทาย