“คนละครึ่งพลัส” หนุนสู่ตลาดออนไลน์ - ฟู้ดดิลิเวอรี่

นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มาตรการ “คนละครึ่งพลัส” รอบนี้ นอกจากช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชนแล้ว ยังออกแบบมาเพื่อสนับสนุน พ่อค้าแม่ค้าร้านอาหาร ให้สามารถขยายช่องทางขายเข้าสู่โลกออนไลน์ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในตลาด ฟู้ดดิลิเวอรี่ ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง
ภายใต้นโยบายครั้งนี้ รัฐบาลสนับสนุนร้านอาหารที่เริ่มขายหรือขยายยอดขายบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ผ่านการ อัปสกิลด้านออนไลน์–เดลิเวอรี่ พร้อมสิทธิประโยชน์สูงสุด 2,000 บาท หากร้านค้ามีคำสั่งซื้อ ตั้งแต่ 5 รายการขึ้นไป ภายในช่วงมาตรการ
มาตรการมีผลตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน – 19 ธันวาคม 2568 ครอบคลุม ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่เข้าร่วมกับแพลตฟอร์มฟู้ดดิลิเวอรี่ เพื่อช่วยเพิ่มยอดขาย กระจายรายได้ และเปิดประตูให้ร้านค้าท้องถิ่นเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างมั่นใจและเต็มรูปแบบ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มาตรการนี้จะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าร้านอาหาร “ขายได้มากขึ้น – เข้าถึงลูกค้าใหม่ – เติบโตในตลาดออนไลน์” ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจรากหญ้า และสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจรายย่อยในยุคดิจิทัล
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้าโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ว่า ข้อมูล ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 เวลา 23.00 น. พบว่ามีร้านค้าที่ผ่านการตรวจสอบและเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 934,806 ราย ทั่วประเทศ โดยมีประชาชนที่ใช้สิทธิครบเต็มจำนวน 883,104 ราย ขณะที่ยอดการใช้จ่ายสะสมภายใต้โครงการอยู่ที่ 42,183.1 ล้านบาท แบ่งเป็น ร้านค้าปกติ 41,222.0 ล้านบาท เงินที่ภาครัฐร่วมจ่าย จำนวน 20,333.0 ล้านบาท เงินที่ประชาชนจ่ายเอง จำนวน 20,889.0 ล้านบาท
ร้านค้าผ่าน Food Delivery Platform 961.1 ล้านบาท เงินที่ภาครัฐร่วมจ่าย จำนวน 470.6 ล้านบาท เงินที่ประชาชนจ่ายเอง จำนวน 490.5 ล้านบาท
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2568 ระหว่างเวลา 06.00 - 23.00 น. ผ่าน G-Wallet ในแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" โดยในแต่ละวันไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายให้เต็มสิทธิ 200 บาท
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
