รีเซต

ครม.เคาะพ.ร.บ.โอนงบดึงเข้างบกลาง 8 หมื่น-1 แสนล้าน พร้อมออก พ.ร.ก. 3 ฉบับสู้โควิด

ครม.เคาะพ.ร.บ.โอนงบดึงเข้างบกลาง 8 หมื่น-1 แสนล้าน พร้อมออก พ.ร.ก. 3 ฉบับสู้โควิด
มติชน
7 เมษายน 2563 ( 15:48 )
83
ครม.เคาะพ.ร.บ.โอนงบดึงเข้างบกลาง 8 หมื่น-1 แสนล้าน พร้อมออก พ.ร.ก. 3 ฉบับสู้โควิด

“ประยุทธ์” เผย ครม.เคาะ พ.ร.บ.โอนงบดึงเข้างบกลาง 8 หมื่น-1 แสนล้าน พร้อมออก พ.ร.ก. 3 ฉบับสู้โควิด

 

เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ที่ประชุมมีการพิจารณาการแก้ปัญหาโควิด-19 ตนในฐานะนายกฯ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานไปคิดมาตรการต่างๆออกมา ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายเงินจำนวนหนึ่ง โดยวันนี้มีการหารือในประเด็นการจัดทำพ.ร.บ.การโอนงบประมาณปี 63 เพื่อนำเงินส่วนหนึ่งกลับมาใช้ในระบบโดยเติมที่งบกลางให้มากยิ่งขึ้น แต่งบประมาณปี 63 ได้ใช้จ่ายไปพลางก่อนมากพอสมควรแล้ว และยังเหลืออีกจำนวนหนึ่งประมาณ 8 หมื่น ถึง 1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นก้อนแรกที่จะมาเพิ่มเติมในงบกลางที่เหลืออยู่ปัจจุบันประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยในส่วนนี้ที่ใช้จ่ายไปแล้วคืองบกลางที่ตั้งไว้ในปี 63 ประมาณ 69,000 ล้านบาท

“วันนี้พูดกันถึงเรื่องพ.ร.บ.การโอนงบกลาง ซึ่งจะต้องนำเสนอเข้าครม. สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาอีกครั้งหนึ่ง โดยดาดว่ามีผลบังคับใช้ต้นเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตามก็มีหลายข้อกำหนดว่าจะเอาเงินอะไรมาใช้ได้บ้าง โอนส่วนไหนได้บ้าง เพราะบางอย่างก็ไม่โอนไม่ได้ เช่น งบฯบุคลากรอะไรต่างๆ ที่บางอย่างโอนไม่ได้ ดังนั้นขอให้ทราบว่าการเอาตัวเลขใหญ่ๆมาทั้งหมดแล้วเอา10% ไปตัดทีเดียวทำได้ยาก ไม่เป็นไปตามกฎหมายและพ.ร.บ.งบประมาณที่มีอยู่แล้วเดิม”นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมได้พิจารณา พ.ร.ก.ให้อำนาจ ธปท.สามารถออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) และพ.ร.ก.ให้อำนาจ ธปท.สามารถเข้าไปซื้อตราสารหนี้เอกชนคุณภาพดีที่ครบกำหนดชำระ โดยมีวงเงิน 9 แสนล้าน ซึ่งในส่วนนี้ไม่ได้เป็นการกู้เงิน ไม่ได้ใช้เงินของรัฐบาล แต่เป็นการให้อำนาจ ธปท. ขณะเดียวกันที่ประชุมครม.ได้พิจารณาพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อเยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งตั้งวงเงินไว้ที่ 1 ล้านล้านบาท โดยในระยะที่ 1 ประมาณ 6 แสนล้านบาท เป็นการเยียวยาและใช้ในด้านสาธารณสุข ระยะที่ 2 จำนวน 4 แสนล้านบาทเป็นการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจที่ต้องดำเนินการคู่ขนานกันไป อย่างไรก็ตามต้องรอพ.ร.บ.งบประมาณมีผลบังคับใช้ต้นเดือนมิ.ย.นี้ โดนหลังจากนี้ต้องเร่งดำเนินการเรื่องพ.ร.ก.เงินกู้ให้เรียบร้อย ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีการพิจารณามาตรามาตรการต่างๆไว้แล้วว่าจะใช้เงินตรงไหนอย่างไรบ้าง แต่ก็สามารถปรับโอนกันได้ ซึ่งวันนี้หลายอย่างมีความจำเป็นอยู่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง