รีเซต

“เจ้าชาย” ที่ไม่รอปาฏิหาริย์ แต่ต้องสร้างขึ้นมาเอง เพื่อให้โลกน่าอยู่กว่าเดิม

“เจ้าชาย” ที่ไม่รอปาฏิหาริย์  แต่ต้องสร้างขึ้นมาเอง  เพื่อให้โลกน่าอยู่กว่าเดิม
TNN ช่อง16
6 พฤศจิกายน 2568 ( 10:00 )
20

เจ้าชายวิลเลียมแห่งราชวงศ์อังกฤษได้แสดงบทบาทสำคัญในฐานะผู้นำที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและอนาคตของโลก โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งกำลังเป็นวิกฤตระดับโลกที่ทุกคนต้องร่วมกันเผชิญ ระหว่างการเดินทางไปยังประเทศบราซิลเพื่อร่วมกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุม COP30 ที่จะจัดขึ้นปลายปี 2025 พระองค์ได้ให้สัมภาษณ์กับคริสเตียน อามันปูร์ ผู้สื่อข่าวชื่อดังของ CNN โดยกล่าวถึง “ความวิตกกังวลต่อสภาพภูมิอากาศ” หรือ climate anxiety ซึ่งกำลังแพร่หลายอย่างมากในหมู่คนรุ่นใหม่

 

เจ้าชายวิลเลียมกล่าวว่า เขาได้ยินเสียงจากเยาวชนทั่วโลกที่ตั้งคำถามว่า “เราจะได้รับมรดกโลกแบบไหนจากคนรุ่นก่อน” คำถามนี้สะท้อนความรู้สึกสิ้นหวังของคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมาท่ามกลางภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งไฟป่า น้ำท่วม ภัยแล้ง และอุณหภูมิที่สูงขึ้น พระองค์ยอมรับว่า ความกังวลเหล่านี้เป็นเรื่องจริง แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องเปลี่ยนความกลัวให้กลายเป็นพลังในการลงมือทำ พระองค์เชื่อว่าเยาวชนไม่ได้ต้องการแค่คำพูดสวยหรู แต่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้

ด้วยแนวคิดนี้ พระองค์จึงก่อตั้งโครงการ Earthshot Prize ในปี 2020 เพื่อมอบรางวัลให้กับบุคคลหรือองค์กรที่คิดค้นนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศอย่างสร้างสรรค์ โครงการนี้ไม่ได้เป็นเพียงการประกวดเชิงสัญลักษณ์ แต่เป็นกลไกที่ช่วยผลักดันให้เกิดแนวทางใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวันได้ เจ้าชายวิลเลียมกล่าวว่า Earthshot Prize คือโอกาสในการสร้าง “ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ชีวิตดีขึ้นและช่วยโลกไปพร้อมกัน” ซึ่งเป็นแนวทางที่ผสมผสานระหว่างความยั่งยืนและการพัฒนาเศรษฐกิจ

ในอีกมุมหนึ่ง พระองค์ยังเปิดเผยความรู้สึกส่วนตัวในฐานะพ่อของลูกสามคน ได้แก่ เจ้าชายจอร์จ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ และเจ้าชายหลุยส์ พระองค์บอกว่า สิ่งหนึ่งที่ทรงชอบพูดกับลูก ๆ ก่อนนอนคือ “โลกใบนี้จะดีขึ้น เพราะยังมีผู้คนเก่ง ๆ และมีหัวใจที่อยากช่วยเหลือโลกอยู่มากมาย” คำพูดนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของพระองค์ในการปลูกฝังความหวังและทัศนคติเชิงบวกให้คนรุ่นต่อไป เพื่อให้มองเห็นว่าโลกยังสามารถเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ หากทุกคนร่วมมือกัน

 

การเดินทางของเจ้าชายวิลเลียมในครั้งนี้ยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์อย่างมาก เพราะบราซิลเป็นประเทศที่มีป่าอเมซอน ซึ่งถือเป็น “ปอดของโลก” และจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม COP30 ในปีหน้า พระองค์ได้เข้าร่วมกิจกรรมปลูกต้นโกงกาง เยี่ยมชมพื้นที่อนุรักษ์ และพบปะกลุ่มเยาวชนในโครงการ Generation Earthshot เพื่อส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมในภารกิจปกป้องโลกของเรา

การปรากฏตัวของเจ้าชายวิลเลียมในบราซิลครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงภารกิจทางราชการเท่านั้น แต่เป็นการสื่อสารอย่างชัดเจนถึงความตั้งใจที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลกเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อม พระองค์แสดงให้เห็นว่าการสื่อสารเรื่องวิกฤตภูมิอากาศไม่จำเป็นต้องใช้ความกลัวเป็นเครื่องมือ แต่สามารถใช้ “ความหวัง” เป็นพลังขับเคลื่อนได้เช่นกัน

 

ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและปัญหาซับซ้อน เสียงของเจ้าชายวิลเลียมจึงเป็นเหมือนคำเตือนใจว่า อนาคตของโลกยังไม่ถูกกำหนด และสิ่งที่จะกำหนดมันได้คือการลงมือทำของเราทุกคน การรักษาโลกไม่ใช่เรื่องของผู้นำหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของมนุษยชาติทั้งหมด หากเรามีความหวังและพร้อมจะลงมือ โลกใบนี้ก็ยังสามารถเป็นบ้านที่สวยงามสำหรับคนรุ่นต่อไปได้อย่างแน่นอน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง