รีเซต

โลกร้อนคุกคามโต๊ะอาหาร ข้าวสาลี กาแฟ ไวน์เสี่ยงหมดโลก

โลกร้อนคุกคามโต๊ะอาหาร ข้าวสาลี กาแฟ ไวน์เสี่ยงหมดโลก
TNN ช่อง16
2 ตุลาคม 2568 ( 12:00 )
7

ภาวะโลกร้อนกำลังคุกคามอาหารที่เรารัก ตั้งแต่ขนมปัง พาสต้า กาแฟไปจนถึงองุ่นและถั่วลิสง ความร้อนที่สูงขึ้นและสภาพอากาศสุดโต่งทำให้ผลผลิตลดลง บางชนิดอาจหายากหรือสูญพันธุ์ไปในอนาคต หากเราไม่ลงมือป้องกัน โลกของเรากำลังจะทำให้มื้ออาหารโปรดของเราหายไป เริ่มจากอาหารชนิดแรก 

ข้าวสาลี


ธัญพืชเป็นอาหารสำคัญที่สุดชนิดหนึ่งทั่วโลก เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และวิตามิน ข้าวสาลีถือเป็นหัวหน้าของครอบครัวธัญพืช โดยมีผลผลิตปีละ 700–800 ล้านตันตลอดทศวรรษที่ผ่านมา การปลูกข้าวสาลีให้ได้ผลผลิตสูงต้องอาศัยอุณหภูมิที่เหมาะสมระหว่าง 21–24 องศาเซลเซียส (70–75°F) เมื่อภาวะโลกร้อนทำให้อุณหภูมิไม่เหมาะสม ผลผลิตจะลดลง ส่งผลให้ขนมปัง พาสต้า และขนมอบต่าง ๆ อาจแพงขึ้นหรือหายาก 

พื้นที่ Great Plains ของอเมริกาเหนือเป็นแหล่งผลิตข้าวสาลีสำคัญ คิดเป็น 10% ของผลผลิตโลก และ 30% ของการส่งออกข้าวสาลีคุณภาพสูง แต่การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิอาจทำให้ผลผลิตลดลงอย่างรวดเร็ว เช่น การเพิ่มขึ้น 2°C อาจทำให้ผลผลิตลดถึง 25%

กาแฟ


ผู้คนมากกว่า 1 พันล้านคนดื่มกาแฟทุกวัน แต่พืชกาแฟกำลังเผชิญความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ อุณหภูมิสูงเกินไปทำให้เมล็ดสุกก่อนเวลา ส่งผลต่อรสชาติและอาจกระทบสุขภาพ ผู้ปลูกบางส่วนต้องย้ายไปยังพื้นที่สูงหรือเขตภูมิอากาศที่เย็นกว่า

พื้นที่ปลูกกาแฟส่วนใหญ่ตั้งอยู่ระหว่าง เส้นศูนย์สูตรเหนือและใต้ หรือ “Coffee Belt” ซึ่งเคยมีสภาพอากาศเสถียร แต่ในปี 2050 ประเทศบางแห่งอาจสูญเสียพื้นที่ปลูกที่เหมาะสมถึง 60% ผลผลิตกาแฟโลกอาจลดลงถึง 70%

 

ถั่วลิสง


ถั่วลิสงเจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อนและกึ่งร้อนของเอเชีย ออสเตรเลีย แอฟริกา และอเมริกา แต่ความร้อนและฝนตกไม่แน่นอนทำให้ผลผลิตลดลง หากอุณหภูมิสูงกว่า 36°C ผลผลิตเมล็ดถั่วลดลงประมาณ 6% ต่อการเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส

แม้ว่าพืชจะดูใหญ่และแข็งแรง แต่เมล็ดอาจไม่สมบูรณ์ การแก้ไขด้วยวิทยาศาสตร์ เช่น การปรับปรุงพันธุ์ถั่วให้ทนความร้อนและฝนไม่สม่ำเสมอกำลังดำเนินอยู่ แต่ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ อนาคตของถั่วอาจหายไปเหลือเพียงแซนด์วิชเจลลี่

องุ่น


องุ่นต้องการอุณหภูมิ 18–29°C แต่ความร้อนสูงทำให้สุกก่อนเวลา ทำให้รสชาติและความหวานเปลี่ยนไป ส่งผลต่ออุตสาหกรรมไวน์ เมล็ดองุ่นที่สุกเร็วอาจให้รสชาติไม่ดี และแอลกอฮอล์สูงกว่าปกติ ภาวะโลกร้อนจึงอาจทำให้ไวน์ชั้นดีหลายยี่ห้อสูญหาย

 

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้หมายถึงแค่ฤดูร้อนที่ร้อนขึ้น แต่เป็นภัยคุกคามต่อวิถีชีวิตประจำวันของเรา รวมถึงอาหารที่เรารัก ตั้งแต่ธัญพืชที่เป็นส่วนประกอบหลักของขนมปัง ไปจนถึงองุ่นที่ทำเป็นแยมและไวน์ การละเลยต่อโลกของเราอาจส่งผลต่ออาหารในวันนี้และรุ่นอนาคต ทางออกคือการตระหนักและลงมือป้องกัน เช่น การสนับสนุนพลังงานหมุนเวียนและการปรับตัวทางเกษตร เพื่อให้อาหารโปรดของเรายังคงอยู่บนโต๊ะและในตู้เย็นไปอีกหลายปี

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง