เปิดไทม์ไลน์สยบแก๊งเจาะตู้ATM เปิดที่เพชรปิดเกมที่แม่กลอง
เพชรบุรี-กรณีคนร้ายใช้แก๊สเจาะตู้ATM ที่เพชรบุรีตำรวจภาค7 ร่วมมือกับสืบจังหวัดเพชรบุรีและสืบท่ายาง เจาะเกาะติดใช้เวลา16 วันแกะรอยข้ามไปมา3 จังหวัด(เพชร,ประจวบฯ,แม่กลอง) ก็สามารถจับได้ยกแก๊ง เราจะมาไล่เรียงไทม์ไลน์ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“เปิดฉากที่เพชรบุรี”
เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของคืนวันที่18 มิถุนายน2563 ที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยตั้งอยู่หน้าโครงการเขื่อนเพชรอ.ท่ายางจ.เพชรบุรีคนร้ายคาดว่าหลายคนใช้แก๊สเจาะตู้เอทีเอ็มจนเกือบจะได้เงิน!!! แต่ไม่สำเร็จมีชาวบ้านผ่านมาเห็นแก๊งโจรจึงจำใจต้องหลบหนีไปทันทีเงินที่อยู่ในตู้มากกว่า 3 ล้านบาทจึงปลอดภัย
“เปิดเกมที่เพชร”
เช้าวันที่19 มิ.ย.63 ภาค7 ได้ผนึกกำลังกับตำรวจเพชรบุรีโดยการอำนวยการของพล.ต.ท.ธนาชูวงษ์ผบช.ภ.7 ,พล.ต.ต.สราวุธสงวนโภคัยได้มอบหมายให้รองผบช.ภ.7 (สส.), ร่วมกับพ.ต.อ.บัญญัติเพียรสวัสดิ์รองผบก.ภ.จว.เพชรบุรี(สส.) ที่ได้รับมอบหมายจากพล.ต.ต.เทียนชัยคามะปะโสผบก.ภ.จว.เพชรบุรีได้ร่วมกันวางแผนกำหนดแนวทางในการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมคนร้าย
“แกะรอยไปถึงประจวบฯ”
ทั้งนี้จากการแกะรอยสืบสวนจนทราบว่า เมื่อกลางดึกของคืน วันที่ 18 มิถุนายน 2563 เวลา 01.55 น. รถยนต์เก๋งสีดำ(ไม่ทราบยี่ห้อที่แน่ชัด) และรถยนต์นั่งสามตอนสีขาว(สันนิษฐานว่าเป็นยี่ห้อ MITSUBISHI PAJERO) ของคนร้ายขับออกจากซ.หัวหิน 116 โดยรถเก๋งสีดำนำหน้ารถยนต์นั่งสามตอนขับตามหลัง เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทางตัวเมืองหัวหิน
เวลา 02.29 น. รถยนต์ของคนร้ายทั้ง2 คันซึ่งมาจากทางถนนคันคลองชลประทานสายหนึ่งขณะกำลังผ่านสะพานข้ามคลองชลประทานสายสองเพื่อเลี้ยวขวา(ซึ่งทางเลี้ยวซ้ายปิดถนน) ขึ้นถนนคันคลองชลประทานสายสองเพื่อมุ่งหน้าไปยังตู้ATM หน้าโครงการเขื่อนเพชร
จากการสอบสวนพยานบุคคลให้การว่า คืนวันที่ 18 มิถุนายน 2562 ได้ตั้งนาฬิกาปลุกเวลา 02.20 น.แล้วออกจากบ้านซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปทางสะพานเบี่ยงประมาณ 70 เมตรจากนั้นเวลาประมาณ 02.30 น.ได้ขับออกเข้าไปในโครงการเขื่อนเพชรขณะขับรถผ่านหน้าตู้ATM จุดเกิดเหตุ ยังไม่เห็นมีรถของผู้ใดมาจอดที่บริเวณหน้าตู้ATM แม้แต่คันเดียว
ตำรวจภาค 7 และตำรวจเพชรบุรี ลุยสืบต่อพบว่าหลังจากรถยนต์ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คันวิ่งผ่านหน้าร้านเขื่อนเพชรยานยนต์ไปประมาณ 100 เมตรเศษ แล้วไปเลี้ยวซ้ายเข้าทางเบี่ยงถนนซอยเพื่อไปทะลุสะพานท่าทุ่งแฝกข้ามคลองชลประทานสายสามแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนคันคลองชลประทานสายสามมุ่งหน้าไปที่ตู้ATM ของธนาคารกรุงไทยซึ่งตั้งอยู่หน้าโครงการเขื่อนเพชรถึงบริเวณที่เกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 02.33 น.
เวลาประมาณ 02.40 น.มีชาวบ้านสังเกตเห็นมีรถยนต์สีขาวแบบรถปาจาโร่ จอดอยู่โดยถอยท้ายรถเข้าไปติดตู้ATM หันหน้ารถออกถนนเปิดฝากระโปรงรถ และมีรถยนต์เก๋งสีดำ จอดเทียบกับรถยนต์สีขาวหันหน้าออกถนนเช่นเดียวกัน แต่เข้าไปลึกกว่าลักษณะบังตู้ATM
อีกหนึ่งเบาะแสคือคำให้การของชาวบ้านระบุว่าได้สังเกตเห็นรถยนต์นั่งสามตอนไม่แน่ใจว่าเป็นFORD หรือPAJERO จอดท้ายรถเข้าไปติดตู้ATM โดยหันหน้ารถออกถนนเปิดฝากระโปรงรถทะเบียนด้านหน้ามีแผ่นสีดำมีเทปติดบนล่างและทะเบียนหลังไม่มีเห็นชายวัยรุ่นสวมเสื้อแขนยาวสีดำและกางเกงสีดำสวมแมสก์ บังใบหน้ายืนอยู่คนเดียว
จากข้อสันนิษฐาน คาดว่าคนร้ายน่าจะปฏิบัติการลงมือเจาะตู้ATM เวลา 02.53 น. จนกระทั่งเวลา 03.08 น. สัญญาณที่ตู้ATM ดังกล่าวแจ้งเตือนสัญญาณและมีชาวบ้านมาพบการก่อเหตุคนร้ายจึงจำใจต้องหลบหนี
***เส้นทางหลบหนีของรถผู้ก่อเหตุรถยนต์เก๋งสีดำของคนร้ายมุ่งหน้ากลับเส้นทางถนนชลประทานสายสามรถยนต์นั่งสามตอนสีขาวของคนร้ายมุ่งหน้ากลับเส้นทางถนนชลประทานสายหนึ่ง(เส้นทางที่มา)
จากนั้นเวลา 03.42 น. รถยนต์เก๋งสีดำของคนร้ายมาจากทางตัวเมืองหัวหินเลี้ยวขวาเข้าซ.หัวหิน116 ขณะเดียวกันมีรถเก๋งที่มาจากทางปราณบุรีเลี้ยวซ้ายเข้าซ.116 ก่อนหน้าเล็กน้อย
หลังจากนั้นเวลา03.49 น.รถยนต์นั่งสามตอนสีขาวของคนร้ายมาจากทางตัวเมืองหัวหินเลี้ยวขวาเข้าซ.หัวหิน116 ตามหลังรถยนต์เก๋งสีดำเข้าไปในซอยภายหลังก่อเหตุแล้วกลับที่พักจนกระทั่ง เวลา 12.26 น. พบรถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุกสีเทา ขับออกจากซอยหัวหิน 116 โดยเลี้ยวซ้าย เข้าตัวเมืองหัวหิน ไปทางสำนักงานที่ดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์สาขาหัวหิน มุ่งหน้าไปจังหวัดเพชรบุรี
!!! จากนั้นเวลา12.27 น. พบรถจักรยานยนต์แบบชายสีดำมีชาย2 คนขับออกจากซอยหัวหิน116 โดยเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองหัวหิน ไปจังหวัดเพชรบุรี
!!! หลังจากนั้นเวลา12.27 น. รถยนต์นั่งสามตอนสีขาวออกจากซอยหัวหิน116 ตามหลังรถยนต์สีดำออกมามุ่งหน้าเข้าตัวเมืองหัวหิน ไปสู่จังหวัดเพชรบุรี
!!! ต่อมาเวลา15.16 น. รถยนต์เก๋งสีดำทะเบียนษจ-7790 กทม,รถจักรยานยนต์แบบชาย สีดำ,รถยนต์นั่งสามตอนสีขาวทะเบียน 2กฬ-7402 กทม. และรถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุกทะเบียน 7 กฉ-4930 กทม. ขับตามกันไป มุ่งหน้าไปสี่แยกเจ้าลาย อำเภอชะอำ
!!! เวลา15.21 น.เข้าที่พักอำเภอชะอำเช่าห้อง 5 ห้อง จากนั้นต่างคนต่างแยกย้ายเข้าที่บ้านพักแต่ละหลัง โดยพักตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน2563 เช็คออกวันที่ 22 มิถุนายน 2563
“ติดตามตรวจสอบรีเช็ค”
!! ข้อมูลจากชุดสืบสวนภาค7 ซึ่งได้ตรวจสอบกล้องCCTV ของเทศบาลหัวหินสามารถเห็นทะเบียนรถของคนร้ายที่ออกมาจากซอยหัวหิน116 และได้ตรวจสอบดังนี้คือ1.) รถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุกยี่ห้อISUZU D-MAX สีเทาทะเบียน7กฉ-4930 กรุงเทพมหานคร 2) รถยนต์นั่งสามตอนสีขาวยี่ห้อMITSUBISHI ทะเบียน2กฬ-7402 กรุงเทพมหานคร 3.) รถยนต์เก๋งยี่ห้อ HONDA ACCORD สีดำทะเบียน ษจ-7790 กรุงเทพมหานคร
“ปิดเกมที่แม่กลอง”
ทั้งนี้จากการตรวจสอบและหาพยานหลักฐานนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา4 คนและจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม2563 ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งที่จ.สมุทรสงคราม
ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเพชรบุรีประกอบด้วย 1. นายภานุเดช สาดพุ่ม อายุ 26 ปีชาวกรุงเทพฯ/ 2.นายวีรวัฒน์ จูเอี่ยม อายุ 23 ปีชาวนครปฐม/ 3.นายธันวา คุโณ อายุ 22 ปีชาวนครปฐม/ 4. นายภาราดร ปิยวรไพบูลย์ อายุ 22 ปีชาวกรุงเทพฯ พร้อมของกลางรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ 3 คันอาวุธปืน 3 กระบอกและแก๊สที่ใช้ก่อเหตุ 1 ชุด
ทั้งหมดถูกนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.ท่ายางในความผิดฐาน” ร่วมกันพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสั่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป”
ทั้งนี้วันที่ 6 ก.ค.63 นายณัฐวุฒิ เพชรพรหมศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี พร้อม พ.ต.อ.สมเดช ฐิตะวัฒนสกุล และ พ.ต.อ.บัญญัติ เพียรสวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุม แก๊งเจาะตู้เอทีเอ็ม ให้สื่อมวลชนได้ทราบ
ทั้งนี้ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว พ.ต.อ.บัญญัติเพียรสวัสดิ์ รองผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ได้ขอบคุณตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค7 ชุดสืบสวนจังหวัดเพชรบุรี และชุดสืบสวน สภ.ท่ายาง ที่ทำงานกันด้วยความทุ่มเท อดหลับอดนอน ทำงานต่อเนื่องละเอียดรวดเร็วทันเวลา จนสามารถติดตามคนร้ายที่เจาะตูเอทีเอ็ม มาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว และพยานหลักฐานครบถ้วน พร้อมขอบคุณประชาชนที่ให้ข้อมูลเบาะแส ที่เป็นประโยชน์สำหรับให้ตำรวจนำไปเป็นข้อมูลหลักฐาน เพื่อต่อจิ๊กซอ ให้สามารถจับโจรได้เป็นอย่างดี ***นอกจากนี้ยังฝากถึงโจรว่า “อย่ามารุ่มร่ามแถวเพชรบุรีที่นี่เจ้าที่เขาแรง” .///