รปภ. ควงกะแทนเพื่อน หลับดับสลดคาป้อม เผยเคยเข้างานแทน 48ชม.
เพื่อนร่วมงานช็อก รปภ. วัย 56 ปี นอนเสียชีวิตคาป้อมหลังโรงงานเหล็กในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เผยเป็นคนขยัน เคยเข้างานแทนเพื่อนโดยไม่พัก 48 ชั่วโมง
วันที่ 4 พ.ย.2563 พ.ต.ท.สมเจตต์ แตรวิจิตร สารวัตร(สอบสวน) สภ.บางน้ำเปรี้ยว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุภายในป้อมยามโรงงานเหล็กแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา
ที่เกิดเหตุพบศพ นายธานี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทแห่งหนึ่ง สภาพสวมชุดทำงานครึ่งท่อน ไม่พบบาดแผลตามร่างกายและร่องรอยการต่อสู้ นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนเตียงไม้ ตรวจสอบภายในป้อมยามพบเพียงขวดน้ำดื่ม น้ำอัดลม กาแฟ และจานข้าวที่กินแล้ว ทั้งนี้ ผู้ตายมีหน้าที่รับผิดชอบเฝ้าป้อมยามด้านหลังบริษัท เนื่องจากมีแผ่นเหล็กที่ยังไม่แปรรูป รอการผลิตอยู่เป็นจำนวนมาก
เพื่อนร่วมงานช็อก รปภ. วัย 56 ปี นอนเสียชีวิตคาป้อมหลังโรงงานเหล็กในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เผยเป็นคนขยัน
จากการสอบถาม นายสมพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ผู้พบศพคนแรก เปิดเผยว่า ตนเข้ามาปลุกนายธานีเพื่อเปลี่ยนกะ ระหว่างนั้นเข้ามาภายในป้อมยามเห็นไฟปิดอยู่ จึงเขย่าตัวนายธานี แต่ก็ไม่มีการตอนรับ ทีแรกนึกว่านายธานีแกล้ง จึงเปิดไฟแล้วเอานิ้ววางที่จมูกของนายธานี ก็พบว่าไม่หายใจและตัวเย็น จึงรีบไปแจ้งหัวหน้างานให้เข้ามาตรวจสอบ
"นายธานีเป็นคนขยัน มักจะรับอาสาเข้ากะเป็นเพื่อนๆ ยามด้วยกัน บางที่นายธานีเคยควงกะ 48 ชั่วโมง หรือ 2 วันมาแล้ว ซึ่งวันนี้นายธานีรับอาสาเข้ากะแทนตน รวมแล้วนายธานีได้เข้ากะวันนี้ 24 ชั่วโมงเต็ม ก่อนจะสิ้นกะใหม่ ผมจึงมาเรียกเพื่อเปลี่ยนกะ แต่นายธานีเสียชีวิตแล้ว" นายสมพร กล่าว
ด้าน นายอาทิตย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี หัวหน้า รปภ. เปิดเผยว่า นายธานีเพิ่งจะมาประจำที่โรงงานแห่งนี้ได้ไม่ถึงเดือน ปกติแล้วนายธานีเป็นคนขยันทำงาน ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ มักจะอาสาเข้ากะทำงานแทนเพื่อนยามด้วยกันที่ไม่สะดวกเข้างานตามเวลา ที่ผ่านมาเคยเตือนให้ดูแลสุขภาพและพักผ่อนแล้ว แต่ด้วยความขยันของนายธานี จึงมักควงกะเป็นประจำ
ขณะที่ พ.ต.ท.สมเจตต์ เปิดเผยว่า สาเหตุคาดว่านายธานีอาจจะพักผ่อนไม่เพียงพอ ประกอบกับอายุที่เยอะแล้ว จึงอาจนอนหลับไปจนเสียชีวิต เบื้องต้นไม่พบร่องรอยหรือสาเหตุของการทำร้าย ทั้งนี้ ได้ส่งศพให้อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรานำส่งโรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยว เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนจะติดต่อให้ญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
