จ่ายจริง! สปสช.ช่วยเหลือเบื้องต้นแพ้วัคซีนโควิดแล้ว 150 ราย เกือบ 1 ล.

วันนี้ (1 มิ.ย.64) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ประชุมผู้บริหาร สปสช. ทั้ง 13 เขต เพื่อชี้แจงการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีที่ได้รับความเสียหายจากวัคซีนโควิด-19 ว่าขณะนี้แต่ละเขต เริ่มมีผู้ทยอยยื่นคำร้องขอรับการความช่วยเหลือเบื้องต้นจากกรณีฉีดวัคซีนโควิด-19 เข้ามา โดยย้ำว่าหากประชาชนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 สงสัยว่าจะมีอาการเจ็บป่วยที่มีเหตุจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 รวมถึงในกรณีที่เสียชีวิต ทั้งตัวผู้ฉีดวัคซีน หรือญาติสามารถยื่นคำร้องได้ที่โรงพยาบาลที่รับฉีดวัคซีน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และสำนักงานสาขาเขตของ สปสช. ได้ทันที โดยจะมีคณะอนุกรรมการฯ ระดับพื้นที่พิจารณาคำร้อง เมื่อพบว่า เป็นความเสียหายจะจ่ายเงินชดเชยภายใน 5 วัน หลังคณะอนุกรรมการมีมติ” เลขาธิการ สปสช. กล่าว ทั้งนี้ นพ.จเด็จ กล่าวว่า ในกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรจะได้รับการช่วยเหลือไม่เกิน 400,000 บาท กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการช่วยเหลือไม่เกิน 240,000 บาท และกรณีเกิดภาวะเจ็บป่วยที่ต้องรับการรักษาไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งจะช่วยเหลือจำนวนเท่าใดนั้น เป็นการพิจารณาของอนุกรรมการฯ ตามภาวะความรุนแรง
“ต้องย้ำว่า กรณีที่สงสัยความเจ็บป่วยรวมถึงเสียชีวิตว่ามีสาเหตุจากวัคซีน สามารถยื่นคำร้องได้ทันที ไม่ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ เพราะเป็นการใช้หลักการช่วยเหลือเหลือเบื้องต้น ไม่ต้องพิสูจน์ถูกผิด อาจเป็นเรื่องของเหตุสุดวิสัย และเมื่อมีได้จ่ายช่วยเหลือไปแล้ว ในภายหลังหากพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เราก็จะไม่เรียกเงินคืนเนื่องจากถือว่าเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น เรื่องนี้เป็นกลไกทางสังคมในการให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่กลไกทางการแพทย์ที่พิสูจน์สาเหตุ จึงต้องมีความรวดเร็วเพื่อบรรเทาผลที่เกิดขึ้น” นพ.จเด็จ กล่าว
เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั่วประเทศมีผู้ที่รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ยื่นคำร้อง และ สปสช.ได้จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว จำนวน 150 ราย รวมเป็นเงินช่วยเหลือจำนวน 991,700 บาท ส่วนใหญ่อาการไม่มากมีจำนวน 131 ราย อาการปานกลาง 15 ราย และอาการมากที่ต้องนอนโรงพยาบาล 4 ราย อย่างไรก็ตาม กรณีการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นที่ได้รับความเสียหายจากวัคซีนโควิด-19 นี้ เฉพาะบริการวัคซีนหลักที่เป็นของรัฐบาลจัดบริการฉีดให้กับประชาชนเท่านั้น โดยครอบคลุมทุกบริษัทที่รัฐนำเข้า แต่ไม่รวมถึงวัคซีนโควิด-19 ที่เป็น “วัคซีนทางเลือก” ซึ่งให้บริการโดยโรงพยาบาลเอกชน
Tag
บทความน่าสนใจอื่นๆ
