“เบิร์กเชียร์” ตุนเงินสดมากเป็นประวัติการณ์

“เบิร์กเชียร์ แฮททาเวย์” กลุ่มบริษัทโฮลดิ้งรายใหญ่ของสหรัฐฯ ตุนเงินสดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.817 แสนล้านดอลลาร์ นับเป็นไตรมาสที่ 12 ติดต่อกันที่บริษัทขายหุ้นมากกว่าการซื้อเก็บไว้ในพอร์ตหุ้นมูลค่า 2.832 แสนล้านดอลลาร์ สะท้อนความระมัดระวังในการลงทุน

ข้อมูลดังกล่าวอยู่ในรายงานทางการเงินฉบับล่าสุดก่อนที่มหาเศรษฐีนักลงทุน “วอร์เรน บัฟเฟตต์” จะลาออกจากตำแหน่ง CEO และส่งไม้ต่อให้กับ “เกร็ก อาเบล” ดำรงตำแหน่งแทน

นอกจากนี้ เบิร์กเชียร์ฯ ยังไม่ได้ซื้อหุ้นคืน ซึ่งเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกันที่ไม่มีการซื้อคืนหุ้น แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับลดลง เนื่องจากนักลงทุนต่างกังวลเกี่ยวกับทิศทางของบริษัท และการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารสูงสุด ส่งผลให้ราคาหุ้นของเบิร์กเชียร์ฯ ร่วงลงร้อยละ 12 นับตั้งแต่ “บัฟเฟตต์” ประกาศยุติบทบาท CEO

ขณะเดียวกัน รายได้ของบริษัทขยายตัวเพียงร้อยละ 2 ต่ำกว่าการเติบโตของ GDP สหรัฐฯ ส่วนกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นร้อยละ 34 อยู่ที่ 1.349 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

บริษัทระบุว่า ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง เป็นปัจจัยฉุดรั้งธุรกิจในเครือ ทั้งยอดขายของบริษัทรับสร้างบ้าน “เคลย์ตัน โฮมส์” รวมถึงแบตเตอรี่ “ดูราเซลล์” ธุรกิจเสื้อผ้าและของเล่น

“บัฟเฟตต์” วัย 95 ปี กำลังตุนเงินสดของบริษัทเพิ่มขึ้น ก่อนที่เขาเตรียมจะสิ้นสุดบทบาทในตำแหน่ง CEO ที่ยาวนานถึง 6 ทศวรรษ ภายในสิ้นปีนี้ แต่ยังคงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ (chairman) ความเคลื่อนไหวของ “เบิร์กเชียร์” ถูกจับตามองในฐานะดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพราะเป็นเจ้าของธุรกิจเกือบ 200 แห่ง ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม