พายุหิมะถล่มสหรัฐ-นิวยอร์กประกาศภาวะฉุกเฉิน บ้านนับแสนไร้ไฟฟ้า

ข่าววันนี้ 30 ม.ค.บีบีซีและซีเอ็นเอ็นรายงานว่า พื้นที่ชายฝั่งตะวันออกหรืออีสต์โคสต์ของสหรัฐอเมริกาถูกพายุหิมะลูกใหญ่ ลูกแรกของอีสต์โคสต์ในรอบ 4 ปีพัดถล่ม ทำให้ขณะนี้ 5 มลรัฐประกาศภาวะฉุกเฉินรับมือ

ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ แมรีแลนด์ โรดไอส์แลนด์ และเวอร์จิเนีย ประกาศภาวะฉุกเฉิน ก่อนที่ไม่กี่ชั่วโมง เกิดหิมะตกหนักและลมจากอิทธิพลพายุเฮอร์ริเคนพัดถล่มพื้นที่ ด้านผู้เชี่ยวชาญเตือนหิมะอาจตกหนักเป็นประวัติการณ์ในบางพื้นที่และเตือนภัยน้ำท่วมบริเวณใกล้ชายฝั่งตะวันออกอีกด้วย ส่งผลให้เที่ยวบินสหรัฐเกือบ 6,000 เที่ยวบินถูกยกเลิกแล้ว

กรมอุตุนิยมวิทยาสหรัฐยืนยัน เมื่อวันเสาร์ที่ 29 ม.ค.ตามเวลาท้องถิ่นยืนยันว่า เกิดบอมโบเจเนซิสหรือบอมบ์ ไซโคลน เป็นภาวะที่เกิดจากลมที่เย็นขึ้นผสมกับลมทะเลที่อุ่นขึ้น ทำให้ความดันอากาศลดลงกะทันหัน

อุณหภูมิที่หนาวเย็นจะยังคงเป็นปัญหาในวันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค.ในพื้นที่ส่วนมากของชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่มีคำเตือนภัยพายุหิมะถล่มในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือนับตั้งแต่ปี 2561

น.ส.เคธี โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กระบุว่า ประชาชน 75 ล้านคนอยู่ในเส้นทางพายุหิมะตกหนักและลมกระโชกแรง พร้อมเตือนภัยพายุหิมะถล่มว่า ประชาชน 10 ล้านคนอาจได้รับผลกระทบในบริเวณชายฝั่งจากรัฐเมนไปจนถึงรัฐแมสซาชูเซตส์และจากรัฐนิวเจอร์ซีย์ไปจนถึงรัฐแมรีแลนด์

พายุถล่มหลายพื้นที่ในรัฐนิวยอร์กและแมสซาชูเซตส์ จนหนา 61 เซนติเมตรในช่วงค่ำของวันเสาร์ที่ 29 ม.ค.ตามเวลาท้องถิ่น และบ้านกว่า 95,000 หลังในรัฐแมสซาชูเซตส์ต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยในย่านเคป ค้อด หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดมีประชาชน 100 เปอร์เซ็นต์ในเมืองโพรวินซ์ทาวน์ไม่มีไฟฟ้าใช้

นายแมทธิว คัปปุซซี นักอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นระบุว่า ปริมาณหิมะที่สูงชันมากเป็นปัญหา โดยภายใน 1 ชั่วโมง หิมะตกลงมาจนมีความหนา 8-10 เซนติเมตร “ไม่มีพนักงานดูแลถนนคนไหนที่สามารถรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ จึงทำให้ถนนทั้งหมดต้องถูกปิด”นายคัปปุซซีกล่าว