JAS เผยมูลค่าขาย TTTBB-JASIF ให้ AWN ลดลง 4,049 ลบ. หลังธุรกิจแข่งขันเดือด

#JAS #ทันหุ้น-บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 บริษัท และบริษัทย่อย คือ บริษัท อคิวเมนท์ จำกัด (“ACU”) ได้ดำเนินธุรกรรมจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จ ากัด (มหาชน) (“TTTBB”) ที่ถือโดย ACU และหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (“JASIF”) ที่ถือโดยบริษัทฯ ให้แก่กลุ่มบริษัท แอดวานซ์ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือAWN เสร็จสิ้นแล้ว ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566
ทั้งนี้มูลค่าจากธุรกรรมการขายสินทรัพย์ดังกล่าวจำนวน 32,420 ล้านบาท ได้มีการปรับลดลง เหลือเป็น 28,371 ล้านบาท เนื่องจาก
1) มีการดำเนินการหักเงินปันผลที่บริษัทฯ ได้รับภายหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2565 จนถึงวันที่ธุรกรรมการจำหน่ายสินทรัพย์แล้วเสร็จจำนวน 1,049 ล้านบาท
2) มีการหักผลกระทบเชิงลบที่มีสาระสำคัญ (Material Adverse Change – MAC) ทำให้มูลค่าจำหน่ายสินทรัพย์ถูกปรับลดลงจำนวน 3,000 ล้านบาท
โดยเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญสรุปได้ดังนี้
2.1) นับตั้งแต่วันที่เข้าทำบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับการเข้าทำธุรกรรมการจำหน่ายสินทรัพย์กับบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2565 (“บันทึกข้อตกลงฯ”) จนถึงปัจจุบัน ใช้เวลาทั้งสิ้นกว่า 1.5 ปี (เนื่องจากรอการอนุมัติการรวมกิจการจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) และตลาดอินเทอร์เน็ตบ้านในช่วง 1.5 ปีที่ผ่านมา ได้พบกับความท้าทายจากการแข่งขันที่เข้มข้นและรุนแรงโดยผู้ประกอบการต่างๆ ต่างพยายามรักษา และขยายฐานลูกค้าโดยการลงทุนในการอัปเกรดเทคโนโลยีให้ทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านความเร็วสูงและการเชื่อมต่อที่มั่นคง ผู้ประกอบการที่ไม่สามารถปรับปรุงหรือลงทุนกับเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ทันท่วงที (รวมถึง TTTBB) ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงผู้ให้บริการของลูกค้า และการสูญเสียส่วนแบ่งตลาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของ TTTBB อย่างมีนัยสำคัญ
นอกเหนือจากการแข่งขันที่รุนแรงดังกล่าวแล้ว เทคโนโลยี xDSL ซึ่งใช้สายทองแดงกลายเป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัย และไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทำให้ TTTBB ต้องหันมาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีไฟเบอร์แทน เนื่องจากเทคโนโลยีนี้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่า ซึ่งนำไปสู่การลดลงของรายได้จากการให้บริการด้วย xDSL อย่างมีนัยสำคัญและส่งผลให้TTTBB จำเป็นต้องบันทึกการด้อยค่า (impairment) ของอุปกรณ์xDSL ที่ใช้ในการให้บริการ ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของหนี้สินของ TTTBB อันเนื่องมาจากการบันทึกค่าเสื่อมราคานี้
2.2) เนื่องจากสถานการณ์การแข่งขันอย่างรุนแรงในตลาดอินเทอร์เน็ตบ้านสำหรับผู้บริโภค ทำให้ในปัจจุบัน TTTBB ไม่สามารถรักษาฐานลูกค้าไว้ได้เท่ากับฐานลูกค้าที่ TTTBB มี ณ วันที่บริษัทฯ และ ACU ได้เข้าลงนามในบันทึกข้อตกลงฯมีผลกระทบต่อรายได้ของ TTTBB อย่างมีนัยสำคัญ
2.3) แม้ว่าปัญหากระแสเงินสดของ TTTBB จะได้รับการแก้ไขอย่างมีนัยสำคัญหลังจากที่ผู้ถือหน่วยลงทุนของ JASIF อนุมัติการยกเลิกสัญญาประกันรายได้ค่าเช่าในเดือนสิงหาคม 2566 แต่ปัญหาสภาพคล่องดังกล่าวก่อนเดือนสิงหาคม 2566ส่งผลให้ TTTBB ต้องชำระดอกเบี้ย ค่าชดเชยและค่าปรับในจำนวนที่มีนัยสำคัญเนื่องจากการชำระหนี้ต่างๆ ล่าช้า
การปรับราคาจากผลกระทบเชิงลบที่มีสาระสำคัญดังกล่าว ถือเป็นข้อกำหนดและเงื่อนไขปกติทั่วไปในสัญญาซื้อขายหุ้นและหน่วยลงทุน ซึ่งเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญดังกล่าว ส่งผลทำให้บริษัทฯ ปฏิบัติผิดข้อกำาหนด และเงื่อนไขของสัญญาซื้อขายหุ้นและหน่วยลงทุน ซึ่งบริษัทฯ ได้ให้ไว้ตั้งแต่ ณ ขณะเข้าทำบันทึกข้อตกลงฯ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2565
หลังจากเสร็จสิ้นการทำธุรกรรมนี้ กลุ่มบริษัทฯ จะยังคงสานต่อความร่วมมือทางธุรกิจกับกลุ่มบริษัท แอดวานซ์ อิน โฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (“AIS”) ซึ่งรวมถึงบริการ IPTV ที่ในช่วงแรกจะเป็นความร่วมมือทางธุรกิจระยะเวลา 3 ปี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ทั้งนี้กลุ่มบริษัทฯ จะได้รับค่าตอบแทนจากการให้บริการ 3 ปีรวมกันขั้นต่ำประมาณ 1,140 ล้านบาท