นายกฯ เรียกร้องประชาชน "ปฏิเสธการเมืองแบบเก่า ที่แพร่กระจายเชื้อโรคของความแตกแยก"
นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์ ย้ำถึงความสำคัญแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ และเรียกร้องให้ยุติการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย โดยไม่ได้มีการพูดถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนที่ประท้วงอยู่ในขณะนี้
เวลา 18.00 น. วันที่ 13 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อประชาชนชาวไทยผ่านการถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ช่องต่าง ๆ หลังการนำรัฐมนตรีใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ ปฏิญาณตนเพื่อเข้ารับตำแหน่งว่า ได้เชิญผู้มีความสามารถที่ไม่ได้มาจากภาคการเมืองเข้ามาทำหน้าที่ด้วย ตามแนวทางการทำงานที่เรียกว่า รวมไทยสร้างชาติ และย้ำถึงภารกิจสำคัญ 5 เรื่องสำหรับรัฐมนตรี ได้แก่
- โควิด-19 : เว็บไซต์ไทยชนะ เส้นบาง ๆ ระหว่างการป้องกันโรคกับการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
- โควิด-19 : ธนาคารโลกแนะรัฐเร่งสร้างงาน คาดเศรษฐกิจไทยต้องใช้เวลาฟื้นฟูอย่างน้อย 2 ปี
- ไวรัสโคโรนา : ชะตากรรมของชาวชุมชนคลองเตยท่ามกลางการระบาดของโควิด-19
1.เยียวยาความเจ็บปวดที่ประชาชนกำลังเผชิญอยู่ต่อไปอีกโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) และประชาชนในภาคส่วนต่าง ๆ ที่ต้องตกงานในช่วงที่ผ่านมา
2.แก้ปัญหาต่าง ๆ ในแนวทางที่จะช่วยประเทศอย่างยั่งยืน โดยต้องตระหนักอยู่เสมอว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกจะยังคงอยู่ต่อไปอีก
3.สร้างแรงจูงใจให้ธุรกิจต่าง ๆ ยังคงการจ้างงานลูกจ้างต่อไป และให้ธุรกิจต่าง ๆ ใช้ช่วงเวลานี้ พลิกองค์กรของตัวเองให้กลายเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพและสามารถแข่งขันได้ดีขึ้น
4.ต้องมีแผนเรื่องการจ้างงานคนรุ่นใหม่ เพื่อรองรับนักศึกษาจบใหม่จำนวนมากที่กำลังเข้าสู่ตลาดแรงงาน
5.งานที่เกี่ยวกับการทำงานต่าง ๆ เหล่านี้ จะต้องทำด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส และรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้ขอบคุณประชาชนชาวไทยที่ร่วมแรงร่วมใจกันต่อสู้กับโควิดจนประสบความสำเร็จและรักษาชีวิตของผู้คนได้นับหมื่น แต่ยอมรับประเทศไทยได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส จากการที่โลกเผชิญกับ "วิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายกว่าครั้งไหน" เพราะเศรษฐกิจไทยเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกอย่างมาก และพึ่งพานักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยคาดว่าจะต้องทนทุกข์กับวิกฤตนี้ไปจนถึงปลายปีหน้า
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกัน จับมือหารือกันอย่างสร้างสรรค์ วางแผน และลงมือทำ นี่คือหนทางที่จะทำให้หลุดพ้นจากปัญหาที่ถ่วงประเทศไทยเอาไว้มาอย่างยาวนาน
ในแถลงการณ์นี้ นายกรัฐมนตรีไม่ได้พูดถึงข้อเรียกร้องต่าง ๆ ของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนที่กำลังประท้วงอยู่ในขณะนี้ แต่ได้ขอให้ทุกฝ่ายยุติการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมือง ซึ่งกีดขวางการร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเป็นหนึ่งเดียวของคนไทยในการแก้ปัญหาต่างๆ เป็นสิ่งที่ควรจะมีอยู่แค่ในอดีต เราต้องหยุดพูดคำว่า "พวกเค้า" หรือ "พวกเรา"และระบุว่า แนวคิดแบบ พวกเค้า-พวกเรา ไม่ควรจะมีที่ยืนอีกต่อไป ในโลกปัจจุบัน ควรจะมีแต่คำว่า "คนไทยด้วยกัน"
"ผมขอพูดต่อหน้าประชาชนคนไทยทุกคนว่า กรุณา "ปฏิเสธ" ความเกลียดชัง และการแบ่งแยกทางการเมือง ขอให้ปฏิเสธการเมืองแบบเก่า ที่แพร่กระจายเชื้อโรคของความแตกแยก ระหว่าง ความเชื่อที่แตกต่าง คนรุ่นใหม่-คนรุ่นเก่า คนรวย-คนจน หรือความแตกต่างอะไรก็ตามที่ถูกใส่เข้ามาในสังคมของเรา"
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า อนาคตเป็นของคนรุ่นใหม่ และอนาคตก็อยู่ในมือคนรุ่นใหม่ ให้คนรุ่นใหม่แสดงออกมาให้ทุกคนเห็นว่า พวกเขามีพลังที่จะเดินหน้าประเทศ ไปในเส้นทางที่จะร่วมแรงร่วมใจกันทุกคนทุกฝ่าย ก้าวข้ามความคิดเห็นที่อาจจะแตกต่างกันบ้าง เพื่อช่วยแก้ปัญหาปากท้องในปัจจุบัน และก้าวไปสู่อนาคตที่ดีขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำในช่วงท้ายว่า ภารกิจที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ การจัดการวิกฤตเศรษฐกิจ และหนทางเดียวที่จะช่วยแก้ปัญหาก็คือ การจับมือกันและทำงานด้วยกัน
"เราต้องอยู่เหนือการโต้เถียงกัน และเราต้องอยู่เหนือการเมือง เพราะเรามีสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมากรออยู่ตรงหน้า นั่นคือความอยู่รอดในการหาเลี้ยงชีวิตของคนนับล้าน ๆ ที่กำลังเดือดร้อนจากหายนะของโควิด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
"พูดอย่างทำอีกอย่าง"
ถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรี เรียกเสียงวิจารณ์จากฝ่ายค้านว่าทำตรงข้ามกับสิ่งที่พูด
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ โพสต์ทางทวิตเตอร์ว่า "ถ้าหากพลเอกประยุทธ์จะทำตามในสิ่งที่ตนพูดเพียงสักครึ่งหนึ่ง บ้านเมืองก็คงไม่ถลำลึกสู่วิกฤตอย่างที่เป็นอยู่ น่าเสียดายที่พลเอกประยุทธ์กำลังพูดอย่าง ทำอีกอย่าง แบบตรงกันข้าม พลเอกประยุทธ์จึงนอกจากไม่แก้ปัญหาที่มีอยู่ หากยังกำลังทำให้เหตุการณ์เลวร้ายลงไปทุกที"
"พลเอกประยุทธ์บอกว่าต้องไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ต้องรับฟังความเห็นที่แตกต่าง ต้องไม่สร้างความเกลียดชัง ต้องเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความคิดเห็น แต่ความเป็นจริงกลับมีการคุกคามเยาวชนคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง แม้ในวันที่พลเอกประยุทธ์กล่าวถ้อยคำอันสวยหรูอยู่นี้เอง" นายจาตุรนต์ โพสต์ทางทวิตเตอร์ พร้อมกับติดแฮชแท็ก #หยุดคุกคามประชาชน