น้ำท่วมใต้ล่าสุด! ศป.กฉ. เผยน้ำเริ่มลด เดินหน้าฟื้นฟู-เยียวยา

ศป.กฉ. สรุปสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ 27/11/2568
ณ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการและโฆษกศูนย์ และนางสาวรัชดา ธนาดิเรก กรรมการและโฆษกศูนย์ ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ผู้อำนวยการศูนย์ กล่าวว่า ในช่วงเช้ามีการประชุมด่วนเพื่อหามาตรการเยียวยาในขณะที่น้ำกำลังลดที่จังหวัดสงขลาและอีก 6 จังหวัดในเขตภาคใต้ที่ประสบกับปัญหาอุทกภัย โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญ 4 กระทรวงที่เกี่ยวข้องในด้านเศรษฐกิจเพื่อฟื้นฟูในช่วงเร่งด่วนนี้ โดยมีกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งได้มีการแถลงข่าวไปครั้งหนึ่งแล้ว โดยศูนย์นี้จะได้ลงในรายละเอียดของโครงการต่างๆ ทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และแผนดำเนินการในระยะถัดไป
นอกจากนี้ ยังได้รับการประสานจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ว่า ขณะนี้มีการร้องเรียนจากนักเรียนและนักศึกษาจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงการสอบของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ดังนั้น รมว.อว. จึงมีนโยบายให้สถาบันอุดมศึกษาที่มีกำหนดจัดสอบในช่วงใกล้นี้ พิจารณาเลื่อนการสอบออกไปก่อน เพื่อบรรเทาความกังวลของนักศึกษา แม้บางคนจะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยโดยตรง แต่มีญาติพี่น้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ทำให้เกิดความไม่สบายใจและมีผลต่อการเตรียมตัวสอบ
ผู้อำนวยการศูนย์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคสิ่งของเพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับรวบรวมและลำเลียงความช่วยเหลือไปยังประชาชนในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยศูนย์ดังกล่าวตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ ซึ่งมีการดำเนินงานต่อเนื่องทุกวัน โดยกองทัพอากาศได้จัดเครื่องบิน C-130 สำหรับลำเลียงสิ่งของบริจาคไปยังพื้นที่ประสบภัย
พร้อมด้วยยานพาหนะจากกองทัพอากาศและกองทัพบกที่เข้าร่วมสนับสนุนภารกิจ เพื่อให้สิ่งของที่ประชาชนร่วมบริจาคถูกส่งถึงมือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทั่วถึง ขณะเดียวกัน ศูนย์รับบริจาคยังได้รับการประสานงานความต้องการสิ่งของที่จำเป็นจำนวนมากจากแต่ละพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงที่ระดับน้ำเริ่มลดลงและกำลังจะกลับสู่สภาวะปกติ ซึ่งรวมถึง “ไม้กวาดทางมะพร้าว” ที่ในหลายพื้นที่ไม่สามารถจัดหาได้ และยังขาดแคลนเป็นจำนวนมาก
มีผู้เสียชีวิตแล้ว 85 ราย
ทั้งนี้ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการและโฆษกศูนย์ ได้รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดสงขลา พร้อมแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย โดยรัฐบาลได้รับรายงานข้อมูลจากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 นี้ ว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 85 ราย เฉพาะในจังหวัดสงขลา แบ่งเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม 55 ราย และสาเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับน้ำท่วม 30 ราย
ทั้งนี้ เมื่อวาน (วันที่ 26 พ.ย. 68) ศป.กฉ. ส่วนหลังได้ประสานข้อมูลไปยัง ศป.กฉ. ส่วนหน้า เกี่ยวกับกรณีร้องขอความช่วยเหลือเร่งด่วนจำนวนทั้งสิ้น 4,010 เคส จาก 2 แพลตฟอร์ม คือ Traffy Fondue และ HatYaiFlood รวมทั้งจากคอลเซ็นเตอร์ โดยสามารถดำเนินการแล้วเสร็จและนำคนกลับเข้าสู่ศูนย์อพยพได้ 3,492 เคส คิดเป็น 87% ทั้งนี้ ในการเดินทางไปช่วยเหลือได้มีการนำอาหารไปบริการประชาชนที่ยังไม่สามารถออกจากที่พักอาศัยได้
โดยได้ส่งมอบอาหารไปแล้วประมาณ 10,000 ชุด ขณะที่ความสามารถปัจจุบันในการผลิตอาหารของศูนย์ฯ สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่และผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่ที่วันละ 60,000 ชุด และขณะนี้อยู่ระหว่างเพิ่มกำลังการผลิตได้ไม่น้อยกว่า 50% โดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ประสานกับร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ภาคส่วนต่างๆ ในการจัดส่งอาหารสด อาหารสำเร็จรูป และอาหารพร้อมทานมาให้กับพี่น้องประชาชน
สถานการณ์น้ำเริ่มลดลง
นายสิริพงศ์ฯ กรรมการและโฆษกศูนย์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์น้ำเริ่มลดลง คาดว่าในช่วงเย็นนี้ระดับน้ำจะลดลงต่ำกว่าตลิ่งในทุกจุด จะต้องมีการเร่งระบายน้ำ โดยใช้อุปกรณ์เครื่องสูบน้ำ เพื่อให้ผิวจราจรสามารถใช้สัญจรและเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ศป.กฉ. ได้เตรียมการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยจะมีทีมลงพื้นที่เพื่อไปซ่อมแซมเครื่องจักรที่ไม่สามารถใช้งานได้ เพื่อให้กลับมาใช้งานได้ทันที ขณะเดียวกันยังมีปัญหาอุปสรรค คือรถยนต์ที่ลอยน้ำมากีดขวางช่องทางต่างๆ จึงจำเป็นต้องมีทีมลงไปเร่งเคลียร์พื้นที่เพื่อให้รถยนต์ต่าง ๆ สามารถเดินทางได้เร็วที่สุด
ส่วนในเรื่องของตัวเลขผู้เสียชีวิต ไม่อยากให้เกิดความสับสนระหว่างตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ประชาชนอาจเห็นจากสื่อมวลชน กับตัวเลขจาก ศป.กฉ. เนื่องจากข้อมูลของศูนย์ฯ จะเป็นตัวเลขที่มาจากข้อมูลที่ได้รับการยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น การแถลงของศูนย์ในวันนี้จะถือเป็นข้อมูลล่าสุดจนถึงปัจจุบัน รัฐบาลขอยืนยันว่าข้อมูลที่ได้นำเสนอเป็นการให้ข้อมูลแก่ประชาชนอย่างครบถ้วนและตรงไปตรงมา
“แม้สถานการณ์น้ำจะลดลง รัฐบาลยังคงเดินหน้าในการช่วยเหลือ ต่อจากนี้จะมีการฟื้นฟู และการเยียวยา ซึ่งได้เตรียมแผนการฟื้นฟูไปแล้ว โดยจะแบ่งโซนในการรับผิดชอบเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานมีความคุ้นชิน ทำงานได้ด้วยความสะดวกและรวดเร็ว โดยหวังว่าจะสามารถฟื้นฟูสถานที่ให้กลับมาได้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมหรือสาธารณูปโภค” นายสิริพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ทำข้อตกลงรับการสนับสนุนจากบริษัท สเปซเอ็กซ์ หรือ Starlink โดยหนังสือจากสเปซเอ็กซ์ที่เสนอความช่วยเหลือมาถึงเมื่อเช้าวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งได้มีการดำเนินการทันที และด้วยประโยชน์ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้ขั้นตอนต่างๆ ที่จะต้องดำเนินการลดลง คาดว่า Starlink จะเดินทางมาถึงในวันพรุ่งนี้ และยังคงมีประโยชน์ แม้ว่าสถานการณ์น้ำจะเริ่มลดลงแล้ว
นายสิริพงศ์ กล่าวถึง กรณีการเยียวยาผู้ประสบภัยและการลดอัตราดอกเบี้ย รัฐบาลได้เจรจากับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ โดยช่วงเวลานี้ การช่วยเหลือจะไม่ให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเสียเครดิตสกอร์ กล่าวคือ บางคนอาจมีปัญหาไม่สามารถผ่อนชำระได้ในช่วงนี้ จะไม่ถูกขึ้นแบล็กลิสต์ และรัฐบาลได้เจรจากับบริษัทประกัน หากบางท่านยังไม่สะดวกต่อประกันและเพิ่งหมดอายุไป ให้ต่ออายุอัตโนมัติไปอีกเป็นระยะเวลา 90 วัน และหากยังไม่ทันภายในระยะเวลาดังกล่าว ก็จะมีการขยายต่อไปอีก 90 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
“การอุดหนุนเงินชดเชยเยียวยา ในวันพรุ่งนี้ กรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณ จะทำการโอนเงินเยียวยาสำหรับผู้ประสบภัยพิบัติทุกหลังคาเรือนไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อไปใช้ดำเนินการก่อน เงินเยียวยารอบนี้ ประชาชนจะได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว” นายสิริพงศ์ กล่าว
ด้านนางสาวรัชดา ธนาดิเรก กรรมการและโฆษกศูนย์กล่าวว่า รัฐบาลได้วางแผนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างครบวงจร ทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อให้ประชาชนสามารถฟื้นตัวและกลับมายืนด้วยตนเองได้ โดยในระยะเร่งด่วน รัฐบาลเน้นดูแลผู้ที่อยู่ในศูนย์อพยพและผู้ที่เตรียมกลับบ้านให้ได้รับอาหาร ยา และของใช้จำเป็นอย่างครบถ้วน รวมถึงกองทัพรายงานว่าได้ลำเลียงสิ่งของจำเป็น บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ ปภ. ลงพื้นที่ผ่านเครื่องบิน C-130 แล้วในช่วงเช้า และจะมีอีก 2 เที่ยวบินในเวลา 17.30 น. และ 18.30 น. เพื่อนำของช่วยเหลือไปยังพื้นที่หาดใหญ่และจังหวัดชายแดนภาคใต้
“กรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวว่าบางพื้นที่ขาดแคลนสิ่งของนั้น ศูนย์ฯ ได้รับเรื่องและประสานทุกหน่วยงานทันที โดยเฉพาะสินค้าจำเป็น ซึ่งกระทรวงพาณิชย์กำลังจัดส่งต่อผ่านกองทัพ จึงขอให้ประชาชนคลายความกังวล”
จากที่ได้รับรายงานว่าระดับน้ำในหลายพื้นที่เริ่มลดลง ส่งผลให้ประชาชนบางส่วนอาจทยอยกลับบ้านได้ภายในสัปดาห์หน้า แต่ยังมีหลายครอบครัวที่ยังไม่สามารถกลับที่อยู่อาศัยได้ รัฐบาลกำลังพิจารณามาตรการรองรับระยะยาว โดยเตรียมจัดสรรพื้นที่ราชพัสดุ ให้เป็นพื้นที่พักพิงสำหรับผู้ที่ยังไม่สามารถกลับบ้านได้ ในส่วนของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) และศูนย์รับผู้ลี้ภัยขนาดเล็กหลายแห่ง นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้มีการจัดสรรงบกลางเพิ่มเติม เพื่อรองรับการดูแลผู้ประสบภัยจำนวนมาก
พร้อมมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถใช้งบทดลองราชการได้คล่องตัวขึ้น หลังมีการขยายกรอบวงเงินเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ปรับปรุงกฎระเบียบด้านการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจเบิกจ่ายได้สะดวกขึ้น โดยเพิ่มวงเงินงบทดลองราชการจากเดิม 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท ยืนยันไม่ได้มีการรวมอำนาจ แต่ได้กระจายไประดับท้องที่แล้ว
นอกจากนี้ รัฐบาลเร่งประสานการกระจายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมอบหมายให้เครือข่ายรัฐวิสาหกิจดูแลอย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการทันที ขณะเดียวกัน ศูนย์ประสานงานกลางยืนยันว่ากำลังติดตามทุกประเด็นปัญหาอย่างใกล้ชิด ศูนย์ฯ ได้เชื่อมโยงข้อมูลจากช่องทางร้องเรียนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสายด่วน 1111 หรือระบบ Traffy Fondue ก่อนรวบรวมและส่งต่อรายชื่อผู้ร้องเรียนรวมถึงกรณีต่าง ๆ ไปยังหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ เพื่อให้สามารถลงไปดูแลและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างตรงจุดและรวดเร็ว
ส่วนในมาตรการระยะที่ 2 และระยะที่ 3 รัฐบาลเตรียมดำเนินการ “เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ” โดยบูรณาการร่วมกับกระทรวงการคลัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทุกภาคส่วนทางการเงิน มาตรการสำคัญ คือ การพักหนี้–พักดอกเบี้ยสำหรับประชาชนที่เป็นลูกหนี้ธนาคารรัฐ ซึ่งคาดว่าจะมีธนาคารพาณิชย์เข้าร่วมด้วย มาตรการพักหนี้ครอบคลุมลูกหนี้ที่มียอดหนี้รวมทุกบัญชีไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยให้พักทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 เดือน
ซึ่งรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้ธนาคารรัฐในอัตรา 4.5% ตลอดระยะเวลาที่พักชำระ โดยในส่วนมาตรการเยียวยาเพิ่มเติม รัฐบาลเตรียมสนับสนุนลูกค้ากลุ่มเดิมที่ยังมีวงเงินกู้คงเหลือและต้องการกู้เพิ่ม โดยสามารถขอกู้เสริมสภาพคล่องได้รายละไม่เกิน 100,000 บาท พร้อมเงื่อนไขดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 6 เดือน โดยรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว คำนวณตามต้นเงินคงเหลือที่อัตราต้นทุนประมาณ 1% หรืออาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยกว่านั้น
ระยะฟื้นฟู
รัฐบาลเตรียมมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยประชาชนและผู้ประกอบการ โดยธนาคารของรัฐจะปล่อยกู้ดอกเบี้ย 0% ในปีแรก และอาจมีการปรับเพิ่มขึ้นในปีถัดไป รัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยสำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 500,000 บาท เวลาหนึ่งปี เพื่อให้ประชาชนมีแหล่งทุนในการซ่อมแซมบ้านและฟื้นฟูกิจการหลังน้ำลด สำหรับการเคลมประกันรถยนต์ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ คปภ. เร่งประสานโดยเร็ว โดยมีแนวทางใหม่ที่จะทำให้ขั้นตอนง่ายขึ้น ไม่ต้องใช้เอกสารจำนวนมาก เพียงถ่ายรูปความเสียหายและยื่นเรื่องก็สามารถดำเนินการรับเงินเคลมได้ทันที
ทั้งนี้ คปภ. จะออกรายละเอียดขั้นตอนเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้ เพื่อให้ผู้เอาประกันสามารถเข้าถึงสิทธิได้อย่างสะดวกและไม่ล่าช้า และรวมถึงมาตรการด้านภาษี เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้ การขยายเวลายื่นแบบภาษี และการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับเครื่องจักรหรือชิ้นส่วนที่เสียหายในพื้นที่ประสบภัย นอกจากนี้ ผู้ที่บริจาคเพื่อช่วยเหลือยังสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้
ส่วนมาตรการระยะยาว รัฐบาลเตรียมสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูทั้งที่อยู่อาศัย โรงงาน และกิจการต่าง ๆ ควบคู่กับมาตรการภาษีเพื่อช่วยค่าซ่อมบ้านและซ่อมรถ รวมถึงให้รัฐวิสาหกิจลงพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัยของบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง และระบบสาธารณูปโภค
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
