พระราชปณิธานสีเขียว “สมเด็จพระพันปีหลวง” พลิกฟื้นผืนป่าผาแดงกลับมาเขียวชอุ่ม

ท่ามกลางหุบเขาสลับซับซ้อนของอุทยานแห่งชาติผาแดง ซึ่งทอดตัวผ่านสามอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่และมีแนวเขตติดกับประเทศเมียนมา มีเรื่องราวแห่งพระราชปณิธานยิ่งใหญ่ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ถูกจารึกไว้บนผืนดินและในดวงใจของผู้คน พระองค์ทรงเนรมิตความหวังให้ผืนป่าที่เคยถูกบุกรุก กลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง พร้อมสร้างโอกาสและชีวิตใหม่ให้ราษฎรในพื้นที่ชายแดน
“พื้นที่ผาแดง” เคยเป็นพื้นที่เสี่ยง ทั้งจากการบุกรุกป่า ความยากจนของราษฎร และปัญหาการลักลอบค้ายาเสพติดตามแนวชายแดน แต่ด้วยพระราชปณิธานอันแน่วแน่ พระองค์ทรงเชื่อว่า การให้ผู้คนมีอาชีพสุจริตและยั่งยืน คือทางออกของทุกปัญหา
พ.ศ. 2536 : จุดเริ่มต้นแห่งพระราชปณิธาน
เรื่องราวเริ่มต้นในปี 2536 เมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับจากโครงการเกษตรหลวงดอยอ่างขาง และทอดพระเนตรเห็นป่าไม้บริเวณบ้านถ้ำงอบและบ้านสินชัย อำเภอไชยปราการ-เชียงดาว ถูกบุกรุกอย่างกว้างขวาง ขณะที่ราษฎรเผชิญกับความยากจนและขาดอาชีพที่มั่นคง พื้นที่ชายแดนนี้ยังเป็นเส้นทางลักลอบค้ายาเสพติด
พระองค์มิได้ทรงตำหนิ แต่ทรงเข้าใจสาเหตุแท้จริง และโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันหาทางออก ทั้งการจัดหาพื้นที่ใหม่ให้ราษฎร ฟื้นฟูป่าไม้เดิม และส่งเสริมอาชีพที่ยั่งยืน โครงการนี้คือ “โครงการฟื้นฟูสภาพป่าพื้นที่อำเภอไชยปราการ” ซึ่งผสานแนวคิดให้คนและป่าอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน
พ.ศ. 2538 : การจัดสรรที่ดินและอาชีพที่มั่นคง
ราษฎรลีซอที่อพยพมาอยู่บ้านแข่ลีซอประสบปัญหาขาดน้ำและพื้นที่ทำกิน พระองค์ทรงรวบรวมหน่วยงานตั้งแต่กองทัพภาคที่ 3 กรมป่าไม้ กรมชลประทาน และสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท เพื่อจัดหาพื้นที่ใหม่ที่อุดมสมบูรณ์และปลอดภัยให้ราษฎร สามารถใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี ห่างไกลจากยาเสพติด การจัดสรรที่ดินและสร้างอาชีพเปรียบเสมือนกำแพงแห่งความหวัง เมื่อคนมีงานทำ มีครอบครัวอบอุ่น พวกเขาจะกลายเป็นผู้พิทักษ์ป่าและต่อต้านยาเสพติดโดยธรรมชาติ
พ.ศ. 2546-2549 : การพัฒนาองค์ความรู้และการฟื้นฟูป่า
วันที่ 27 มกราคม 2546 พระองค์เสด็จมายังห้วยแม่เกี๋ยง อำเภอเชียงดาว และมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดตั้งเป็น สถานีเกษตรพื้นที่สูงและวิทยาลัยชาวบ้าน เพื่อช่วยรักษาป่า สร้างอาชีพ และเป็นแหล่งอาหารที่ยั่งยืน รวมถึงเปิดโอกาสให้นักเกษตรรุ่นใหม่มีงานทำ และในปี 2547 พระองค์ทรงปลูก ต้นจำปีช้าง (Magnolia lacei) ข้างพลับพลาทรงงาน เป็นสัญลักษณ์แห่งความงดงามและความหวังบนดอยสูง และในปี 2549 พระองค์ตรัสว่า แม้พระองค์จะทรงไม่สามารถเสด็จมาได้บ่อย แต่ความร่วมมือของทุกฝ่ายยังคงสานต่อพระราชปณิธานอย่างต่อเนื่อง
พ.ศ. 2548 : ป่าคือชีวิต น้ำคือหัวใจ
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 พระองค์เสด็จไปยังบ้านนาศิริ อำเภอเชียงดาว และทอดพระเนตรโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่า พร้อมพระราชดำริว่า “เมื่อป่าเพิ่มขึ้น น้ำก็จะเพิ่มขึ้น ให้อบรมชาวบ้านว่าป่าคือแหล่งน้ำ ป่าสำคัญที่สุด ไม่มีความชุ่มชื้นก็ไม่ดีต่อการหายใจ” พระราชดำรัสนี้สะท้อนถึงความเชื่อมโยงระหว่างป่าไม้ น้ำ และชีวิตมนุษย์ ทั้งหมดล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน
วันนี้ : อุทยานแห่งชาติผาแดงเป็นพื้นที่แห่งพระราชปณิธาน
ผืนป่าที่เคยถูกบุกรุกกลับมาเขียวชอุ่ม ราษฎรมีอาชีพมั่นคง และคนกับป่าสามารถอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน โครงการต่างๆ เช่น โครงการฟื้นฟูสภาพป่าพื้นที่อำเภอไชยปราการ, สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริห้วยแม่เกี๋ยง, และ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าและพัฒนาคุณภาพชีวิตบ้านนาศิริ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า พระราชปณิธานสีเขียวมิได้จบเพียงแค่การปลูกต้นไม้ แต่คือการปลูกฝังจิตสำนึก การสร้างความหวัง และการรักษาผืนป่าให้คงอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน เพราะป่าคือชีวิต น้ำคือหัวใจ และพระมหากรุณาธิคุณคือรากฐานของทุกสิ่ง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
