รีเซต

สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา! ยอดผู้เสียชีวิต พลเรือน 14 ทหาร 18 นาย

สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา! ยอดผู้เสียชีวิต พลเรือน 14 ทหาร 18 นาย
TNN ช่อง16
1 กันยายน 2568 ( 07:16 )
11

บันทึกเหตุการณ์พิพาทบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 31 สิงหาคม 2568

กองบัญชาการกองทัพไทย Royal Thai Armed Forces Headquarters เผย ตามรายงานจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา และกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ดังนี้:

สถานการณ์ประจำวันในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2

โดยรวม กองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์

คงภารกิจ “ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา”

เพื่อให้การบริหารสถานการณ์ฯ มีความต่อเนื่อง โดยเป็นคำสั่งใหม่ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2568 แทนคำสั่งเดิมที่พ้นสภาพตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 275/2568 เรื่อง จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยที่เห็นสมควรจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจดังกล่าวขึ้น เพื่อบูรณาการการปฏิบัติของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มีความเป็นเอกภาพ

โดยมุ่งหมายที่จะแก้ไขความตึงเครียดและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนกับประเทศกัมพูชา อย่างมิตรประเทศที่ใฝ่สันติพึงปฏิบัติต่อกัน บนหลักการทวิภาคีและด้วยสันติวิธี เคารพซึ่งกันและกันในเอกราช อธิปไตย ความเสมอภาค และบูรณภาพแห่งดินแดน รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อสาธารณชน

สรุปสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบ (ยอดสะสมถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2568)

1. พลเรือน
- เสียชีวิตทางตรง: 14 ราย
- บาดเจ็บ: 39 ราย
รวมทั้งสิ้น: 53 ราย

2. ทหาร
- เสียชีวิต: 18 นาย
- บาดเจ็บ: 274 นาย
รวมทั้งสิ้น: 292 นาย

ชุดช่าง (ช.11 พัน.602) ร่วมกันสร้างบ้านใหม่ให้กับวีรบุรุษผู้เสียสละเพื่อแผ่นดิน

หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 จัดชุดช่างของหน่วยร่วมกับ ช.11 พัน.602 ดำเนินการสร้างบ้านหลังใหม่ทดแทนบ้านเก่าที่ชำรุดทรุดโทรมให้กับ อส.ทพ.ประวิทย์ งามแสน ณ บ้านเลขที่ 210 บ้านโนนโพธิ์ ต.ชานุมาน อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ เพื่อตอบแทนความกล้าหาญและการเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งทำให้ อส.ทพ.ประวิทย์ฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากสะเก็ดระเบิด บ้านนี้สร้างขึ้นด้วยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน โดยปัจจุบันสร้างเสร็จ 100% พร้อมเข้าอยู่ได้แล้ว

CAAT ออกประกาศฉบับใหม่ อนุญาตบินโดรนทั่วประเทศภายใต้เงื่อนไข ยกเว้น 5 จังหวัดชายแดน (สระแก้ว บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และอุบลราชธานี) และพื้นที่ความมั่นคงที่ยังคงห้ามบิน มีผล 1–15 ก.ย. 68

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ออกประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง “ห้ามบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (Drone) ในพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา” โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1–15 ก.ย. 68 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
จากการประเมินสถานการณ์ของหน่วยงานด้านความมั่นคงหลังมีประกาศฉบับที่ 4 (15–31 ส.ค. 68) พบว่าสถานการณ์ชายแดนโดยรวมเริ่มคลี่คลาย จึงผ่อนคลายมาตรการให้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถบินโดรนได้ทุกวัตถุประสงค์ แต่ยังต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขและข้อจำกัดตามที่กำหนด

เงื่อนไขหลัก
 - ต้องขึ้นทะเบียนผู้บังคับและตัวโดรนให้ถูกต้อง
 - ต้องยื่นคำขออนุญาตล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน ผ่านระบบ UAS Portal
 - ก่อนทำการบินทุกครั้ง ต้องแจ้งข้อมูลพื้นที่ วัน เวลา และวัตถุประสงค์ผ่านแอป UAS Portal และแจ้งต่อ ศบตอ.น.
 - หากบินนอกเวลา 06.00–18.00 น. ต้องขออนุญาตจาก CAAT และห้ามบินช่วงเวลา 00.01–04.00 น. ทุกกรณี
 - หากปฏิบัติการบินแตกต่างจากประกาศกระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2558 และ 2567 จะต้องขออนุญาตจาก CAAT ผ่าน UAS Portal (uasportal.caat.or.th)

ขอให้ประชาชนรับข้อมูลข่าวสารด้วยวิจารณญาณ และติดตามเฉพาะช่องทางอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ หรือหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อป้องกันความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง