รีเซต

นายกฯ เผยแบ่งงานรองนายกฯ - รมต.ใหม่ ยังไม่ตั้ง KPI ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

นายกฯ เผยแบ่งงานรองนายกฯ - รมต.ใหม่ ยังไม่ตั้ง KPI  ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
TNN ช่อง16
7 พฤษภาคม 2567 ( 12:07 )
14

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สวมชุดขาวเดินลงตึกไทยคู่ฟ้ามายังสนามบริเวณสนามหญ้า เพื่อมาดูความพร้อมผังการถ่ายรูปคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้มีความเป็นห่วงสภาพอากาศ หากรัฐมนตรีมาจะได้รีบถ่ายภาพร่วมกัน 


การประชุมครม.วันนี้จะมีการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีใหม่ ซึ่งตนเองมีแนวทางไว้เรียบร้อยแล้วถึงร้อยละ 95 ดังนั้นหลังจากนี้จะมีการพูดคุยกัน โดยตนเองจะเน้นย้ำนโยบายทุกเรื่องในทุกเรื่อง และตามที่ได้แถลงไว้กับรัฐสภา โดยตนเองจะยึดหลักความเหมาะสม และความสามารถของแต่ละบุคคลในการแบ่งงานให้รับผิดชอบ 


ทั้งนี้จุดมุ่งหมายหลักของตนหลังปรับคณะรัฐมนตรีแล้วผลงานจะต้องดีขึ้น ซึ่งไม่ได้หมายความว่ารัฐมนตรีคนเก่าไม่ดี แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนเป็นธรรมดา


ขณะที่ประชาชนให้คะแนนผลงานของรัฐบาลตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 6 - 7 คะแนน ซึ่งหลังจากนี้หลังปรับครม. จะขับเคลื่อนงานอย่างไรนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การให้คะแนนจากประชาชนถือเป็นเสียงสะท้อนอย่างหนึ่ง ซึ่งการที่มายยืนอยู่ตรงนี้ถือเป็นหน้าที่ ที่จะจะต้องฟังเสียงสะท้อนเหล่านั้น ไม่ว่าจะได้คะแนนเท่าไหร่ก็ยังไม่ถึง 10 อยู่ดี จึงต้องพยายามทำงานต่อไป ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยจะต้องมาพิจารณาอีกทีว่า ส่วนไหนยังทำได้ไม่ดี หรือตรงไหนก็ที่อยู่ในการขับเคลื่อนตามระบบ ที่ต้องใช้เวลาในการทำงานก็ขอให้ความเป็นธรรมให้คณะทำงานด้วย 


ทั้งนี้ระบบการทำงานของภาคส่วนราชการก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะถือว่าเป็นภาคส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐฯ ซึ่งรัฐบาลเองก็ได้มีการพูดคุยกัน โดยเน้นเรื่องเนื้องานเป็นหลัก และเชื่อว่าทุกกระทรวง ทบวง กรม มีส่วนช่วยในการผลักดันงานของรัฐบาลอยู่แล้ว จึงไม่ได้เป็นปัญหาใด แต่ปัญหาใหญ่ที่พบก็ต้องใช้ทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนงาน


สำหรับตนเองได้มีการตั้งตัวชี้วัด หรือ KPI ไว้สำหรับรัฐมนตรีคนใหม่อย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันว่า บางเรื่องจะต้องแล้วเสร็จภายในเมื่อไหร่ แต่ก็อาจจะมีตัวแปรอื่นที่ไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นตัวชี้วัดก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งตัวเองไม่ได้กำหนดว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ โดยบางเรื่องอาจจะจบภายใน 2 สัปดาห์ แต่บางเรื่องอาจจะใช้เวลานานนับปี เพราะแต่ละเรื่องใช้เวลาที่แตกต่างกัน เช่นเรื่องการลงทุน ที่จะจะต้องมีการประสานงานกับทุกฝ่าย ซึ่งก็ต้องเห็นใจฝ่ายที่จะเข้ามาลงทุนด้วย เพราะจะต้องใช้เวลาในการพิจารณาเป็นระยะระยะเวลายาวนาน เพราะมีตัวเลขลงทุนถึงหลักแสนล้านบาท ดังนั้นจึงต้องมีขั้นตอน 


อย่างไรก็ตามตนเองเชื่อมั่นว่า ครม. ชุดใหม่ ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก 


ส่วนช่วงเวลา 6-7 เดือนที่ผ่านมา เผยจะต้องเสริมในจุดอ่อนในด้านใดนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัญหาสะสมดีมาก ในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม ปากท้องประชาชนประชาชน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ยังคงต้องการความช่วยเหลือ


ข้อมูลจาก:  ทำเนียบรัฐบาล

ภาพจากทำเนียบรัฐบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง