CRD โปรเจ็กต์ก่อสร้างจ่อ ดันแบ็กล็อกชน 800 ล้านบาท
CRD เกาะติดงานก่อสร้างปลายปี คาดโครงการใหม่ไหลออก 500 ล้านบาท ตั้งเป้าดันแบ็กล็อกก่อสร้างชน 800 ล้านบาท ลุ้นผลงานปีนี้เทิร์นอะราวด์ หลังไตรมาส 2/2566 พลิกกำไร ด้านผู้บริหาร “ธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์” แย้มปี 2567 มีข่าวดีธุรกิจบริหารจัดการขยะ
นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) หรือ CRD เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจ 3 เดือนสุดท้ายปีนี้คาดจะดีขึ้น เนื่องจากงานก่อสร้างบางงานที่ดีเลย์จากไตรมาส 1 และไตรมาส 2 และจะออกมาใน 3 เดือนสุดท้ายหลายโครงการ และยังมีงานโครงการใหม่ที่ทยอยออกมาอีกด้วย เบื้องต้นคาดมูลค่างานก่อสร้างในช่วง 3 เดือนสุดท้ายนี้ประมาณ 300-500 ล้านบาท
** เล็งคว้างานประมูล
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มยอดงานก่อสร้างปี 2567 เป็น 800 ล้านบาท ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับการประมูลงานก่อสร้างและงานใหม่ในไตรมาส 4 นี้ ว่าจะได้งานมากน้อยขนาดไหน หากเร็วสุดเชื่อว่างานประมูลจะเกิดขึ้นในไตรมาส 4/2566 หรือหากเลื่อนออกไปน่าจะเห็นการประมูลงานใหม่ในต้นปี 2567 หรือไตรมาส 1/2567
สำหรับงานก่อสร้างปี 2567 บริษัทยังคาดการลำบากเพราะทิศทางเศรษฐกิจโลกไม่นอน ทั้งเศรษฐกิจจีน อเมริกาชะลอตัว และอาจจะมีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม ในส่วนของการท่องเที่ยวคาดจะค่อยๆ ฟื้นตัว เพราะโรงแรมแบรนด์ใหญ่เริ่มขยายตัวเล็กน้อย โดยล่าสุดบริษัทเซ็นสัญญารับงานที่เกาะสมุย มูลค่า 80 ล้านบาท แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้นีอาจจะมีปัญหาก่อสร้างและบัญชีมา 2 โครงการ แต่ปัจจุบันเคลียร์เรียบร้อย และสามารถเดินหน้าโครงการใหม่ต่างๆ ได้
ส่วนธุรกิจบริหารจัดการขยะ ปัจจุบันมีมูลค่างานอยู่ที่ 1.2-1.3 พันล้านบาท ได้แก่ สัญญางานเก็บขนขยะมูลฝอย 4 โครงการ ซึ่งปัจจุบันทยอยรับรู้รายได้ จากสัญญาในระยะ 5 ปี ได้แก่ โครงการเก็บขนขยะมูลฝอย เทศบาลนครลำปาง, งานกำจัดขยะมูลฝอย เทศบาลนครลำปาง ทั้ง 2 โครงการ ที่รับรู้รายได้ไปแล้วกว่า 50%
** ลุ้นงานจัดการขยะ
ส่วนโครงการขนขยะมูลฝอยเทศบาลนครปากเกร็ด และโครงการเก็บขนขยะมูลฝอย เทศบาลนครเชียงใหม่ โดยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้จำนวนมาก อีกทั้งคาดจะได้งานบริหารจัดการขยะเข้ามาเพิ่มเติม ปัจจุบันอยู่ระหว่างติดตามงานใหม่ ทั้งนี้บริษัทคาดปี 2567 จะได้สัญญาบริหารจัดการขยะอีก 500 ล้านบาท หรือเติบโต 40% จากปี 2566 พร้อมกันนี้คาดจะมีข่าวดีจากธุริจบริการจัดการขยะเพิ่มเติม
นายธีรพัฒน์ กล่าวต่อว่า ปีนี้ลุ้นผลประกอบการให้กลับมาเป็นบวก บริษัทมองมีโอกาสเป็นไปได้ หลังจากไตรมาส 2/2566 พลิกมีกำไรเล็กน้อย 0.98 ล้านบาท ส่วนงบไตรมาส 3/2566 บริษัทอยู่ระหว่างรอปิดงบเดือนสุดท้าย หรือเดือนกันยายนก่อน
นายธีรพัฒน์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ด้านฐานทุนของบริษัท ปัจจุบันเริ่มเก็บเงิน หรือเก็บหนี้จากลูกค้าหนี้ได้แล้ว โดยมีมูลค่า 150 ล้านบาท คาดจะดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงปลายปี ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดเข้ามาในบริษัทเพิ่มขึ้น และจะทำให้มีกระแสเงินสดสำหรับรับงานรับเหมามากขึ้น ขณะที่อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ระดับ 2 เท่า