ครบรอบ 100 ปีวันสิ้นพระชนม์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
พาสักการะศาล “เสด็จเตี่ย” (นายพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์มีพระนามเดิมคือพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ) ทรงเป็นต้นราชสกุล "อาภากร" พระองค์ทรงได้รับสมัญญานามว่า"องค์บิดาแห่งทหารเรือไทย"
พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ประสูติเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พุทธศักราช 2423 เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมารดาโหมดทรงเข้ารับราชการในกระทรวงทหารเรือ ด้วยพระปณิธานอันตั้งมั่นที่จะปฏิรูป และพัฒนาการทหารเรือให้มีรากฐานมั่นคง เข้มแข็ง และเป็นที่ยอมรับของนานาอารยประเทศ
ขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการกรมทหารเรือ พระองค์ได้ทรงจัดระเบียบราชการกรมทหารเรือขึ้นใหม่ ส่งผลให้การปฏิบัติงานไม่ซ้ำซ้อน และการปกครองบังคับบัญชา มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทรงจัดทำโครงการป้องกันประเทศทางทะเล อันประกอบด้วยความต้องการกำลังรบทางเรือ และแนวคิดในการใช้กำลังทางเรือ
ซึ่งถือเป็นแผนการทัพฉบับแรกของกรมทหารเรือ ทรงปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนนายเรือ ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และได้ทรงนำนักเรียนนายเรือ ออกฝึกภาคต่างประเทศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
นอกจากพระปรีชาสามารถด้านการทหารเรือแล้ว พระองค์ทรงศึกษาตำราแพทย์แผนไทยอย่างจริงจัง ทรงศึกษาค้นคว้าตำรับยาแผนไทยอย่างจริงจัง ทรงศึกษาค้นคว้าตำรับยาแผนโบราณและรวบรวมลงในสมุดข่อยด้วยลายพระหัตถ์พร้อมกับเขียนรูปลงสีด้วยพระองค์เอง และทรงให้การรักษาราษฎรที่เจ็บป่วยโดยไม่แบ่งชั้นวรรณะ จนพระเกียรติคุณนาม “หมอพร” เป็นที่รู้จักไปทั่วทุกสารทิศ
โดยก่อนที่เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ท่านจะเสด็จสวรรคต ท่านได้รับสั่งว่าให้นำอัฐิของท่านไปไว้ที่เขาแหลมปู่เจ้า หรือ เขาแหลมปู่เฒ่า หรือ จะเรียกว่าเขากรมหลวงก็ได้ซึ่งตั้งอยู่ในเขตนาวิกโยธินทหารเรือสัตหีบ ศาลเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรแห่งนี้เป็นศาลที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่เพราะว่าศาลหลังเก่าได้ถูกไฟไหม้ไปเมื่อปี พ.ศ. 2519
ศาลแห่งนี้คือสถานที่เดียวที่มีพระอัฐิของเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรประดิษฐานอยู่ภายในแท่นหินอ่อนซึ่งจะอยู่ด้านหลังพระรูปที่สร้างขึ้นมาใหม่ขนาดเท่าองค์จริง ที่ เขากรมหลวงชุมพร แหลมปู่เจ้า สัตหีบ จ.ชลบุรี(เมื่อวันที่ 19 พ.ค.66)
ภาพโดย: ธนาชัย ประมาณพาณิชย์