AOT กสิกรฯ หั่นเป้าเหลือ 44.2 บ. พายยังมองบวก ชูลงทุนระยะยาว

#ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย ส่องหุ้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT มุมมองเป็นกลางจากการประชุมนักวิเคราะห์ ผู้บริหารชี้แจงว่าผลประกอบการไตรมาส 2QFY68 ที่ต่ำกว่าคาดเกิดจากรายการครั้งเดียว
ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการจํานวนผู้โดยสารปี FY2568–70 ลง 18%/29%/33% สะท้อนมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้นต่อจํานวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในชวงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้ คงคําแนะนํา “ถือ” โดยปรับลด TP ลงเหลือ 44.20 บาท จากเดิมที่ 63.98 บาท สะท้อนการปรับประมาณการกําไรของฝ่ายวิจัย
ด้าน บล.พาย ยังแนะนำซื้อ AOT แต่เน้นเป็นการลงทุนระยะยาว เพราะมองว่า AOT เป็นผู้ประกอบการที่จะได้รับผลดีจากการที่ภาคการก่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลักในการเติบโตของประเทศ อย่างไรก็ตามระยะสั้นด้วยการเริ่มเข้าสู่ช่วง Low Season และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ชะลอตัว ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับเป้าผู้โดยสารทั้งปีลงจากเดิม 135 ล้านคนเหลือ 130 ล้านคน ส่งผลให้ประเมินกำไรสุทธิได้ใหม่ที่ 18,452 ล้านบาท (-4%YoY)
สำหรับผลประกอบการงวด FY2Q25 มีกำไรสุทธิ 5,053 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ประมาณ 10% ซึ่ง AOT ให้เหตุผลว่าเกิดจากการคืนเงินส่วนแบ่งผลประโยชน์ให้ King Power ไปประมาณ 800 ล้านบาท หากไม่รวมรายการดังกล่าวกำไรจะใกล้เคียงคาด
ข่าวดีระยะสั้น PSC มีโอกาสเพิ่มได้
ปัจจัยบวกของ AOT ระยะสั้นคือการขอปรับค่า PSC อีก 5 บาท หลังจากมีการใช้ระบบ Bio Matric ในสนามบิน ที่จะเก็บเพิ่มจาก 730 เป็น 735 บาท ขณะที่การปรับค่าบริการในส่วน 100 และ 700 บาท/คน ยังอยู่ระหว่างการศึกษาคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงเดือน ก.ค. และมอบให้ทางสำนักงานการบินพลเรือน (CAAT) พิจารณาต่อก่อนจะส่งให้คณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) โดยหากได้รับอนุมัติจะมีการประกาศล่วงหน้าเป็นเวลา 4 เดือน
หั่นกำไรหลังผู้โดยสารมีโอกาสไม่ถึงเป้า
จำนวนผู้โดยสารในช่วง FY1H25 คิดเป็นสัดส่วน 51% ของเป้าเดิมที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ที่ 135 ล้านคน แต่ด้วยการเข้าสู่ช่วง Low Seasons ทำให้แนวโน้มผู้โดยสารจะไม่เป็นไปตามเป้าฝ่ายวิจัย รวมถึงนักท่องเที่ยวเริ่มมีสัญญาณชะลอตัว ฝ่ายวิจัยจึงปรับจำนวนผู้โดยสารเหลือเพียง 130 ล้านคนใกล้เคียงกับประมาณการของ AOT และทำให้ประเมินทำไรสุทธิได้ได้ได้ได้ใหม่ที่ 18,452 ล้านบาท (-4%YoY) คำแนะนำการลงทุนเราบองว่าระยะสั้นยังมีแรงกดดันจากนักท่องเที่ยวที่ชะลอ แต่ระยะยาวยังแนะนำ "ซื้อ" ได้เพราะยังมองว่าหากการท่องเที่ยวฟื้น AOT จะได้รับผลดีก่อน และประเมินมูลค่าพื้นฐานได้ใหม่ที่ 43 บาท (33.5XPER'25E)