รีเซต

กต.เผยประสานญาติช่วยหญิงไทยเสียชีวิตจากโควิดในอินเดียต่อเนื่อง

กต.เผยประสานญาติช่วยหญิงไทยเสียชีวิตจากโควิดในอินเดียต่อเนื่อง
มติชน
12 พฤษภาคม 2564 ( 07:19 )
74

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกรณีข่าวหญิงไทยเสียชีวิตที่อินเดียจากการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ได้ประสานกับญาติและผู้ดูแลหญิงไทยดังกล่าว ดังนี้

 

 

เมื่อวันที่ 29 เมษายน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ได้รับการติดต่อจากญาติของหญิงไทยซึ่งพำนักอยู่ในอินเดียว่า หญิงไทยรายดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19 อาการสาหัส และรักษาตัวอยู่ที่ รพ. Dr. Ram Manohar Lohia เมืองลัคเนาว์ รัฐอุตตรประเทศ โดยญาติแจ้งว่าหญิงไทยรายดังกล่าวกำลังอาการสาหัส โดยมีระดับออกซิเจนในกระแสเลือดอยู่ที่ประมาณ 50-70 และขอให้สถานเอกอัครราชทูตช่วยเหลือ เพื่อส่งตัวกลับมารักษาที่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินพิเศษวันที่ 1 พฤษภาคม

 

 

สถานเอกอัครราชทูตจึงได้ขอรายละเอียดผู้ที่สามารถติดต่อได้ในอินเดียที่ให้การดูแลผู้ป่วยอยู่ เพื่อให้ช่วยประสานงานกับ รพ. Dr. Ram Manohar เพื่อหารถพยาบาลมาส่งผู้ป่วยที่กรุงนิวเดลี พร้อมทั้งให้ติดต่อกับแพทย์ที่ดูแลเพื่อให้ความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรว่าสามารถเดินทางได้ โดยสถานเอกอัครราชทูตได้จัดหารถพยาบาลเตรียมไว้

 

 

เช้าวันที่ 30 เมษายน ญาติแจ้งสถานเอกอัครราชทูตว่าได้โทรศัพท์สอบถามหญิงไทยรายดังกล่าวแล้วว่าประสงค์กลับไทยหรือไม่ และได้รับคำตอบว่าอยากขอดูอาการตนเองไปก่อนและยังไม่อยากเดินทางกลับ สถานเอกอัครราชทูตจึงได้ขอบคุณและแจ้งไปว่าหากมีประเด็นเร่งด่วนที่ประสงค์ให้สถานเอกอัครราชทูตช่วยเหลืออีกก็สามารถติดต่อได้ทุกเมื่อ

 

 

วันที่ 3 พฤษภาคม สถานเอกอัครราชทูตได้รับแจ้งจากผู้ดูแลที่อินเดีย ว่าหญิงไทยรายดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว โดยสาเหตุภาวะพร่องออกซิเจนในเลือดจากการติดเชื้อโควิด-19

 

 

สถานเอกอัครราชทูตจึงได้ติดต่อกับญาติที่ประเทศไทย และแจ้งผู้ดูแลถึงขั้นตอนต่าง ๆ ตามที่ได้หารือกับญาติ ประกอบด้วย 1. ขอให้หารือกับตำรวจท้องที่เกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อออกมรณบัตรอินเดีย 2. ญาติขอให้ผู้ดูแลจัดการฌาปนกิจให้เรียบร้อย และส่งอัฐิพร้อมของใช้ส่วนตัว เอกสารที่โรงพยาบาลออกให้ทั้งหมด รวมถึงใบมรณบัตรอินเดีย มายังสถานเอกอัครราชทูตในโอกาสแรก

 

 

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ผู้ดูแลได้จัดการฌาปนกิจหญิงไทยรายดังกล่าว เก็บอัฐิ และติดต่อกับตำรวจเมืองลัคเนาว์แล้ว โดยตำรวจจะออกมรณะบัตรให้ภายใน 7 วันทำการ และจะออกเอกสารการชันสูตรศพ (Post Mortem Report) ให้ด้วย

 

 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่าสถานเอกอัครราชทูตจะดำเนินการเต็มที่ตามความประสงค์ของญาติที่ต้องการรับอัฐิและของใช้ส่วนตัวกลับมาในโอกาสแรก แม้ว่ามีแนวโน้มที่กระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากหลายเมืองในอินเดียรวมถึงเมืองลัคเนาว์ อยู่ในภาวะปิดเมือง ทำให้ขนส่งพัสดุไม่ได้ และผู้ดูแลไม่สามารถออกนอกเมืองได้ รวมถึงขั้นตอนการออกมรณบัตรใช้เวลานาน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตได้แจ้งให้ญาติถึงเหตุผลข้างต้นแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง