ไทยเจรจาอ๊อกซ์ฟอร์ดให้ฟรีเทคโนฯวัคซีนโควิดจัดงบ เตรียมโรงงานผลิตเอง
วัคซีนป้องกันการติดเชื้อโวรัสโควิด-19 ใกล้เป็นจริงโดยได้รับการเปิดเผยจาก ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมว่า ขณะนี้มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ มีการพัฒนาวัคซีนก้าวหน้าและมีความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จในเร็วๆ นี้ เพราะมีการทดลองในคนกว่า 1 พันคน โดยการฉีดวัคซีนในคนเข็มแรกให้การตอบสนองที่ดีมาก โดยร้อยะ 90 มีภูมิต้านทาน ซึ่งมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดมีวัตถุประสงค์ว่า หากพัฒนาวัคซีนสำเร็จจะให้คนทั้งโลกจะได้ใช้วัคซีนนี้ด้วยราคาที่ไม่มีกำไร แต่ถ้าจะผลิตเองคงไม่เพียงพอ จึงได้พิจารณาโรงงานผลิตวัคซีนในแต่ละทวีปว่า มีแห่งไหนมีศักยภาพที่จะผลิตได้ ก็จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้
ศ.นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ประเทศไทยเองมีบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ที่สามารถรองรับการผลิตได้ หากสามารถรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีมาได้ก็จะเป็นการผลิตวัคซีนตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ดังนั้นจะขอให้รัฐบาลเป็นตัวแทนไปเจรจามหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด เพื่อขอถ่ายทอดเทคโนโลยีมาให้คนไทยผลิต โดยมีงบประมาณ 600 ล้านบาทเพื่อการพัฒนา ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม โดยคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ไปตรวจสอบโรงงงานผลิตแล้ว คาดว่าจะสามารถให้การรับรองมาตรฐาน GMP ได้ประมาณเดือนกันยายนนี้
“จะร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศไปเป็นผู้เจรจา ทำความยืนยันเพื่อรับเทคโนโลยีมาผลิต อันนี้มีความเป็นได้ที่สุด เพราะทำได้เร็วที่สุดแห่งหนึ่งในโลก หากเขาทำสำเร็จ แล้วเราได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต เราจะสามารถผลิตได้หลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน ซึ่งกำลังการผลิตของบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จะผลิตได้คือ 200 ล้านโดส ถือว่าเป็นปริมาณมาก สามารถนำไปช่วยเหลือกลุ่มประเทศในอาเซียนได้อีกด้วย”ศ.นพ.ปิยะสกล กล่าว
นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อว่า ส่วนการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศไทย โดยคนไทย นั้น ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยนั้น ก็จะไม่หยุดเดินหน้า รัฐบาลจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน