"โนมูระ พัฒนสิน" คาดหุ้นไทยแกว่งตัวลงจำกัด แนะ 3 หุ้นเด่น
#ทันหุ้น-บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วง 28 ก.พ.-4 มี.ค. 2565 ดัชนีจะแกว่งตัวลงในกรอบที่จำกัด โดยมีแนวรับที่ 1,660 จุดและ 1,655 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,689 จุด และ 1,705 จุด ซึ่งความตึงเครียดในปัจจัยที่รัสเซียที่โจมตียูเครนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ประเทศฝั่งตะวันตกเริ่มคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งโนมูระ มองว่าจะมีการคว่ำบาตรดังนี้, การคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อผู้มีอำนาจรัสเซีย(คุมการเคลื่อนไหวของเงินทุน การห้ามการค้าและการเดินทาง), การควบคุมการส่งออกด้านเทคโนโลยีและด้านอาวุธ และเยอรมนีไม่ดำเนินการโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ Nord Stream 2 ประเด็นี้คาดตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวเชิงลบ ขึ้นอยู่กับการยกระดับมาตรการของชาติพันธมิตร
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมโอเปกพลัส ในวันที่ 2 มี.ค. นี้ ว่าจะยังคงปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 4 แสนบาร์เรลต่อวันในเดือน มี.ค. ตามข้อตกลงหรือไม่ และจับตามุมมองน้ำมัน หลังราคาน้ำมันพุ่งแรงจากความเสี่ยงรัสเซีย-ยูเครน และยังต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน ก.พ. ซึ่งจะรายงานในวันที่ 4 มี.ค. โดย Consensus คาดที่ 4 แสนตำแหน่ง ลดลงจาก 4.67 แสนตำแหน่งในเดือนก่อน และอัตราการว่างงานเดือนก.พ. คาดที่ 3.9% จาก 4.% ในเดือนก่อน
ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ก็ต้องติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยบางจังหวัดออกมาตรการเข้มงวด แนะจับตาสถานการณ์และมาตรการภาครัฐในช่วงถัดไป รวมถึงติดตามการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ที่ทยอยประกาศออกมา
กลยุทธ์การลงทุน มีความเสี่ยงในประเด็นรัสเซียกับยูเครน และตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยที่ยังอยู่ในระดับสูง คาดจะทำให้ตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวเชิงลบ โดยดัชนีน่าจะแกว่งในกรอบ 1,650-1,667 จุดก่อน เพื่อประเมินสถานการณ์ กรณีหลุดจากความเสี่ยงเพิ่มขึ้น จะไปสร้างฐานกรอบ 1,620-1,600 จุด จึงคงคำแนะนำถือหุ้น 60%
หุ้นเด่นที่แนะนำ ประกอบด้วย
-MAKRO ให้ราคาเป้าหมายที่ 50 บาทต่อหุ้น มองเป็นหุ้น Laggard การปรับโครงสร้างหนุน synergy สู่ผู้นำธุรกิจ
-JMT ให้ราคาเป้าหมายที่ 75 บาทต่อหุ้น ซึ่งงบไตรมาส 4/64 ทำจุดสูงสุดใหม่โดดเด่น และยังโตต่อเนื่องในปี 2565
-TIDLOR ให้ราคาเป้าหมายที่ 44 บาทต่อหุ้น มองแนวโน้วกำไรเข้าสู่จุดเติบโต และคุณภาพสินทรัพย์เหนือคู่แข่ง