เปิดนโยบายค้างค่าไฟได้นาน 3 เดือน ใครเข้าข่ายเงื่อนไขนี้?

นนี้ ( 4 พ.ย. 66 )กองสื่อสารภาพลักษณ์องค์กรของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. (PEA) เปิดเผยว่า กฟภ.ได้ดำเนินการตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย ที่มีมาตรการให้ลดภาระและบรรเทาค่าใช้จ่ายในครัวเรือน แก่กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ซึ่งมีประชาชนที่จะได้ประโยชน์จากนโยบายนี้กว่า 6 ล้านราย 

มาตรการดังกล่าว มีรายละเอียด ดังนี้

- เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่มียอดการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 บาทต่อเดือน

- กฟภ. ขยายระยะเวลาการงดจ่ายไฟฟ้า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 3 บิลเดือน

- ระยะเวลาตั้งแต่บิลค่าไฟฟ้า ประจำเดือน พฤศจิกายน 2566 - พฤศจิกายน 2567

ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มียอดค้างชำระก่อนบิลเดือนพฤศจิกายน 2566 จะเป็นไปตามมาตรการเดิมของ PEA คือ ค้างชำระได้ไม่เกิน 1 บิลเดือน โดยผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 1129 PEA Contact Center (อ่านว่า พีอีเอ คอลเซ็นเตอร์) ตลอด 24 ชั่วโมง

โดยมาตรการดังกล่าวมีรายงานว่าเกิดขึ้นหลังจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้หารือและมอบนโยบายใก้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เมื่อครั้งไปตรวจเยี่ยม กฟภ. สำนักงานใหญ่ก่อนหน้านี้  

 นายชาติชาย ภุมรินทร์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวก่อนหน้านี้ว่า กฟภ.ได้รับทราบนโยบายของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการอนุญาตให้ผู้มีรายได้น้อย สามารถค้างค่าไฟได้ ในจำนวนเดือนที่มากขึ้น เพื่อเป็นการบรรเทาภาระประชาชนแล้ว และจะได้เร่งดำเนินการทันที เบื้องต้นที่กำหนดไว้ คือ จะต้องเป็นผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 บาทต่อเดือน สามารถค้างค่าไฟได้ 3 เดือน 

ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กฟภ.ก็ได้มีการประชุมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และมีประกาศเดินหน้านโยบายดังกล่าวออกมา 

ด้าน นายสหรัช รักขพันธ์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าวว่า คาดว่าจากนโยบายนี้ ในพื้นที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอสุไหงโก-ลก กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีค่าไฟอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย 300-500 บาทต่อเดือน อยู่ราว 16,620 ราย ซึ่งที่ผ่านมามีครัวเรือนในพื้นที่เขตบริการค้างค่าไฟประมาณร้อยละ 25-30   

ภาพ:  พีอาร์ MEA