รีเซต

พ่อขับรถพาครอบครัวกลับบ้านเลี้ยว ตัดหน้า ถูกรถน้ำแข็งชนเต็มแรง เจ็บ5

พ่อขับรถพาครอบครัวกลับบ้านเลี้ยว ตัดหน้า ถูกรถน้ำแข็งชนเต็มแรง เจ็บ5
ข่าวสด
17 มีนาคม 2564 ( 08:10 )
179

พ่อขับรถพาครอบครัวกลับบ้านเลี้ยว ตัดหน้า ถูกรถน้ำแข็งชนเต็มแรงพลิกคว่ำ รถพังเสียหาย เจ็บ 5 ราย ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

 

 

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 17 มี.ค.254 ร.ต.ท.หญิง ศุภลักษณ์ หวานวาจา รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุรถกระบะชนกัน บริเวณบนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลักกิโลเมตรที่ 309+800 ต.ประจวบ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากสี่แยกไฟแดงประจวบ ประมาณ 800 เมตร หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม ด.ต.จักรพงษ์ อินทนพ ผบ.หมู่ ป. สภ.เมืองประจวบ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบ เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวง ตำรวจทางหลวง และลุงนึกประจวบรถยก

 

พ่อขับรถพาครอบครัวกลับจากร้านข้าวต้ม พุ่งออกจากซอย ตัดหน้า ถูกรถน้ำแข็งชนเต็มแรงพลิกคว่ำ เจ็บ 5 ราย

 

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณใกล้กับปากซอยทางเข้าถนนประจวบศิริ พบรถกระบะ ตอนครึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน บม399 ประจวบคีรีขันธ์ สภาพท้ายรถด้านขวา ไฟท้ายและไฟเลี้ยวแตกเสียหาย กันชนยุบ หน้ารถกระจกแตก ฝากระโปรงบุบ และไฟหน้าขวาแตก คนขับเป็นชาย อายุ 55 ปี บาดเจ็บเล็กน้อย ใกล้กันพบรถกระบะดัดแปลงเป็นรถห้องเย็นบรรทุกน้ำแข็งหลอด ทะเบียน บย6339 ชุมพร สภาพหน้ารถลักษณะมีรอยเฉี่ยวชนบริเวณด้านหน้าซ้ายพังเสียหาย ฝากระโปรงยุบ กันชนแตกและไฟหน้าแตก คนขับชื่อ อาร์ม ขอสงวนชื่อนามสกุลจริง อายุ 29 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บ

 

 

จากการสอบสวนเบื้องต้น คนขับรถกระบะได้ขับรถพาครอบครัวรวม 5 คน เป็นหญิง 3 คน และชาย 2 คน ออกมาจากร้านข้าวต้มแห่งหนึ่งในตัวเมืองประจวบฯ จากนั้นขับมาตามถนนประจวบศิริ เลี้ยวซ้ายขึ้นสู่บนถนนเพชรเกษม เพื่อยูเทิร์นกลับรถมุ่งหน้ากลับบ้านที่ ต.บ่อนอก จากนั้น มีรถกระบะบรรทุกน้ำแข็งซึ่งวิ่งมาทางตรงพุ่งชนเข้าอย่างจัง ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำตกร่องกลางถนน จนมีผู้บาดเจ็บรวม 5 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลประจวบฯ

 

ส่วนรถคู่กรณีรถบรรทุกน้ำแข็งหลอด ได้ขับรถบรรทุกน้ำแข็งออกมาจากโรงน้ำแข็ง ที่บริเวณใกล้กับตลาดนัดหนองเสือ กำลังขับรถมุ่งหน้าลงใต้เพื่อนำน้ำแข็งไปส่งให้กับลูกค้าที่อ.ทับสะแก ถึงจุดเกิดเหตุมีรถกระบะคู่กรณีออกมาจากซอยแล้วตัดหน้ากระชั้นชิด จึงเกิดการชนกันขึ้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งต่อไป

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง