เลขาธิการยูเอ็นชี้ "ความตกลงกลาสโกว์" ยังไม่พอ เตือนระวังหายนะทางภูมิอากาศ
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ว่า นายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ยอมรับในแถลงการณ์ที่เผยแพร่หลังเสร็จสิ้นการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 หรือ ค็อป26 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ว่า ความตกลงกลาสโกว์ที่มีขึ้นได้ในนาทีสุดท้ายของการประชุมนั้น เป็นเพียงแค่ผลการประนีประนอม สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างที่ขัดแย้งกันในผลประโยชน์และสถานะทางการเมืองโลกที่เป็นอยู่ในเวลานี้
เลขาฯยูเอ็นชี้ว่า ความตกลงดังกล่าว “เป็นก้าวย่างที่สำคัญ แต่ยังไม่เพียงพอ” โดยให้เหตุผลว่า “โลกที่เปราะบางของเราเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย” และเตือนเอาไว้ด้วยว่า “เรายังคงยืนเคาะประตูไปสู่หายนะทางภูมิอากาศอยู่ในเวลานี้”
นายกูแตร์เรส เรียกร้องผ่านทวิตเตอร์ในเวลาต่อมาไปยัง คนหนุ่มสาว, ชุมชนพื้นเมือง, บรรดาผู้นำสตรีทั้งหลายที่เคยเป็นผู้นำในการเรียกร้องให้มี “ปฏิบัติการด้านภูมิอากาศ” ว่า “ผมรู้ว่า พวกคุณทั้งหลายอาจผิดหวัง แต่เรายังคงอยู่ในระหว่างการต่อสู้เพื่อชีวิตของเราเอง และการต่อสู้ครั้งนี้ต้องชนะ”
ทางด้าน เกรตา ทุนเบิร์ก นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมที่รู้จักกันทั่วโลก โจมตีการประชุมครั้งนี้ว่า ลงเอยด้วยคำพูดกลวงเปล่า
“การประชุมค็อป26 จบสิ้นไปแล้ว ต่อไปนี้คือผลสรุปย่อของการประชุม บลาห์..บลาห์..บลาห์ แต่การทำงานที่แท้จริงยังคงดำเนินไปนอกห้องประชุม และเราไม่มีวันเลิกล้ม ไม่มีวัน”
ด้านนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ ยังคงยืนกรานว่า ผลการประชุมกลาสโกว์ เป็นก้าวรุดหน้าก้าวใหญ่ แต่ยอมรับว่า ยังคงมีภารกิจที่ต้องทำเพิ่มขึ้นอีกมากในปีต่อๆ ไป
“ความตกลงในวันนี้เป็นการก้าวไปข้างหน้าก้าวใหญ่ เราสามารถทำความตกลงในระดับนานาชาติได้เป็นครั้งแรกให้มีการลดการใช้พลังงานถ่านหินลง และมีแผนปฏิบัติการที่จะนำไปสู่การจำกัดอุณหภูมิของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส”