'กาแฟดอยตุง' ขึ้นทะเบียนจีไอในกัมพูชา เล็งเจาะตลาดญี่ปุ่น
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า การส่งเสริมการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมศาสตร์ (จีไอ) ไทยในต่างประเทศ เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่รัฐบาลมุ่งผลักดันเพื่อสร้างรายได้และเพิ่มโอกาสในตลาดต่างประเทศให้กับชุมชนท้องถิ่น
ปัจจุบันมีสินค้าจีไอไทยที่ขึ้นทะเบียนในต่างประเทศถึง 6 รายการ ครอบคลุมกว่า 30 ประเทศ ได้แก่ ประเทศในสหภาพยุโรป (อียู) อินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนามและล่าสุดสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญากัมพูชาได้ประกาศรับขึ้นทะเบียนกาแฟดอยตุง เป็นสินค้าจีไอ ในกัมพูชา คาดช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและขยายธุรกิจไปยังประเทศกัมพูชา ทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในกัมพูชาที่จะได้ดื่มกาแฟดีมีคุณภาพอย่างกาแฟดอยตุง
“อนาคตเตรียมเปิดตลาดในญี่ปุ่น พร้อมเดินหน้ายื่นคำขอจีไอ ในญี่ปุ่น ขณะนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณา หากขึ้นทะเบียนจีไอ สำเร็จจะเป็นการขยายตลาดส่งออกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งต่อไป” นายวีรศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ กาแฟดอยตุง เป็นกาแฟสายพันธุ์อาราบิกาลูกผสม ปลูกในพื้นที่ป่าเขียวชอุ่มในโครงการพัฒนาดอยตุงบนเทือกเขานางนอน จังหวัดเชียงราย ที่ระดับความสูง 800 ถึง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล จากปัจจัยดังกล่าวทำให้กาแฟดอยตุงมีรสชาติกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ มีกลิ่นหอมหวานจากผลไม้ มีรสชาติเปรี้ยวเล็กน้อยแต่ไม่เปรี้ยวจัด มีเนื้อสัมผัสและรสชาติกำลังดี จึงเป็นที่ชื่นชอบของนักดื่มกาแฟ และมีผู้สนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์กาแฟดอยตุงเพื่อนำไปต่อยอดเชิงธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า อีกเรื่องดีๆ ของกาแฟดอยตุง คือการเป็นต้นแบบของธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน อีกทั้งให้ความสำคัญกับการควบคุมตรวจสอบคุณภาพสินค้าจีไอ ผ่านการขออนุญาตใช้ตราจีไอ กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้คงไว้ซึ่งรสชาติที่มีอัตลักษณ์ของกาแฟดอยตุง
รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)