สวิตเซอร์แลนด์เดินหน้าโครงข่ายอุโมงค์ขนส่งอัตโนมัติมูลค่า 1 ล้านล้านบาท

สวิตเซอร์แลนด์พร้อมเดินหน้าก่อสร้างโครงข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่ใช้เป็นระบบขนส่งสินค้าไร้คนขับที่มีความยาวรวมกว่า 500 กิโลเมตร หลังจากการศึกษาความเป็นไปได้มากกว่าครึ่งทศวรรษ โดยจะสร้างเส้นทางเชื่อมต่อแห่งแรกเป็นระยะทาง 70 กิโลเมตร ภายในปี 2031 ที่จะถึงนี้

ในปี 2016 รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์เปิดแผนศึกษาความเป็นไปได้ในการนำอุโมงค์มาผนวกการใช้งานคู่กับรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าแบบไร้คนขับ (Electric Automated Delivery Truck) ในรูปแบบเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดิน โดยเสนอความยาวทั้งระบบรวมกว่า 500 กิโลเมตร งบประมาณตั้งต้นในขณะนั้นอยู่ที่ 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยเป็นงบของบริษัทเอกชนทั้งหมด

หลังจากผ่านไป 5 ปี โครงการที่นำเสนอโดยคาร์โกซูเทอร์ราน (Cargo Sous Terrain: CST) ก็ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาสวิตเซอร์แลนด์ในการก่อสร้างและเดินระบบ CST ทั้งหมด ซึ่งโครงการช่วงแรกที่มีมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่า 1 แสนล้านบาท จะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 สิงหาคมที่จะถึงนี้ โดยมีความยาวระบบทั้งหมด 70 กิโลเมตร ระหว่างเมืองฮาร์กินเกน-นีเดอร์บิป (Härkingen-Niederbipp) และเมืองซูริค (Zurich)

ภายในระบบ CST จะใช้รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าแบบไร้คนขับ ซึ่งขับเคลื่อนบนรางนำทางด้วยความเร็วสูงสุด 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถวิ่งได้สูงสุด 3 ช่องจราจร พร้อมระบบการจัดการด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) และข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่ศูนย์กระจายสินค้า (CST Hub) ซึ่งเชื่อมต่อทั้งระบบขนส่งสำหรับภาครัฐบาล เอกชน และประชาชน ตลอดจนรูปแบบขนส่งอื่น ๆ เช่น เรือบรรทุกสินค้า เครื่องบิน และรถไฟ รองรับการขนส่งสินค้าหลากหลายประเภท หรือแม้แต่ของสดที่ต้องการการแช่แข็ง โดยทั้งหมดจะถูกบรรทุกบนตู้ขนส่ง (Container) ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษให้เข้ากับตัวรถบรรทุกที่มีขนาดเล็ก

โครงการช่วงแรกที่มีระยะทาง 70 กิโลเมตร คาดการณ์ว่าจะเสร็จสิ้นและเปิดให้บริการภายในปี 2031 พร้อมศูนย์กระจายสินค้ากว่า 10 จุด ก่อนจะขยายให้มีระยะทางรวม 500 กิโลเมตร ลากตั้งแต่นครเจนีวา (Geneva) ไปยังเมืองเซนต์ กาลเลิน (St. Gallen) ทางตะวันออกสุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 

CST ได้จับมือร่วมกับบริษัทด้านโลจิสติกส์และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันในการลดปริมาณรถบรรทุกลงไป 40 เปอร์เซ็นต์ ของที่วิ่งบนท้องถนนในปัจจุบันซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาการจราจรและมลพิษทางอากาศ โดยการลงทุนที่คาดว่ามีมูลค่ารวมสูงกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่า 1 ล้านล้านบาท จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต 

ที่มาข้อมูล IEEE

ที่มารูปภาพ Cargo Sous Terrain