สหรัฐฯ 'ป่วยโควิด-19' ทะลุ 12 ล้านราย
นิวยอร์ก, 22 พ.ย. (ซินหัว) -- ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ แห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ รายงาน ณ เวลา 10.25 น. ของวันอาทิตย์ (22 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย ว่ายอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) รวมของสหรัฐฯ อยู่ที่ 12,085,386 ราย และมียอดผู้ป่วยเสียชีวิตรวมอยู่ที่ 255,823 ราย
รัฐเท็กซัสเป็นรัฐที่พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากที่สุดของสหรัฐฯ โดยมียอดผู้ป่วยอยู่ที่ 1,128,802 ราย ตามมาด้วยรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งอยู่ที่ 1,105,435 ราย ขณะที่รัฐฟลอริดามีผู้ป่วยอยู่ที่ 931,827 ราย รัฐอิลลินอยส์มีผู้ป่วยอยู่ที่ 646,286 ราย และรัฐนิวยอร์กมีผู้ป่วยอยู่ที่ 590,828 รายส่วนรัฐอื่นที่มียอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 สูงเกิน 300,000 ราย ได้แก่ รัฐจอร์เจีย รัฐวิสคอนซิน รัฐโอไฮโอ รัฐเทนเนสซี รัฐนอร์ธ แคโรไลนา รัฐมิชิแกน รัฐเพนซิลเวเนีย และรัฐนิวเจอร์ซีย์จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมียอดผู้ป่วยและยอดผู้เสียชีวิตมากที่สุดของโลก และมียอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 คิดเป็นมากกว่าร้อยละ 20 ของยอดผู้ป่วยทั่วโลก โดยสหรัฐฯ มียอดผู้ป่วยสูงแตะ 10 ล้านราย
เมื่อวันที่ 9 พ.ย. และเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านรายภายในช่วงเวลาแค่ 1 สัปดาห์นับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายวันของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกินระดับ 100,000 ราย ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 พ.ย.) สหรัฐฯ พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทั่วประเทศเพิ่ม 195,542 ราย ถือเป็นจำนวนผู้ป่วยรายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) เผยสรุปสาระสำคัญทางวิทยาศาสตร์
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ระบุว่าหน้ากากอนามัยถูกผลิตมาเพื่อลดการปล่อยฝอยละอองเสมหะที่มีไวรัส (virus-laden droplets) สำหรับผู้สวมใส่ซึ่งติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่มีอาการหรืออยู่ในภาวะก่อนแสดงอาการโดยเฉพาะ ซึ่งคาดว่ามีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 50 ของการแพร่กระจายเชื้อไวรัสที่เกิดขึ้นเนื่องด้วยเทศกาลขอบคุณพระเจ้าเริ่มใกล้เข้ามา ศูนย์ฯ จึงได้เผยแพร่แนวทางที่ควรปฏิบัติสำหรับการเฉลิมฉลองในช่วงหยุดยาวนี้ ซึ่งการเดินทางและการรวมกลุ่มในเทศกาลนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดการแพร่ระบาด วิธีเฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้าที่ปลอดภัยที่สุดจึงเป็นการเฉลิมฉลองกับผู้อยู่อาศัยร่วมกันภายในบ้านการรวมกลุ่มกันของสมาชิกครอบครัวและเพื่อนซึ่งอาศัยอยู่ต่างสถานที่ สามารถเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อหรือการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 หรือไข้หวัดใหญ่ได้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มได้เสนอแผนการเฉลิมฉลองวันหยุดเพิ่มเติมอีกหลายแบบ ซึ่งรวมถึงการรวมกลุ่มกลางแจ้ง และการทานอาหารค่ำพร้อมกันทางออนไลน์ รวมถึงการชอปปิง การชมขบวนพาเหรดและกีฬาทางออนไลน์