"วุฒิสภา" ตีตกข้อเสนอปรับกรอบเวลาการประชุม 3 วัน

การประชุมวุฒิสภา เริ่มขึ้นเวลา 09.30 น. โดยมี นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ในการประชุม ซึ่งถือเป็นการประชุมนัดแรก โดยน.ส.นภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา ได้นำที่ประชุมลุกขึ้นอ่าน พระบรมราชโองการประกาศแต่งตั้ง ประธานและรองประธานวุฒิสภา ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า การประชุมวุฒิสภาครั้งที่หนึ่ง สมัยประชุมสามัญครั้งที่หนึ่ง วันที่ 23 กรกฎาคม ที่ประชุมลงมติเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาเป็นที่เรียบร้อย อาศัยอำนาจตามมาตรา 116 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งประธานและรองประธานวุฒิสภา ดังต่อไปนี้ นายมงคล สุระสัจจะ เป็นประธานวุฒิสภา พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิคนที่ 1 นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 26 กรกฎาคม เป็นปีที่เก้าในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีจากนั้น ประธานและรองประธานวุฒิสภา ได้รับสนองพระบรมราชโองการ โดย นายมงคล ได้กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาที่คุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งสามท่านอย่างที่สุดไม่ได้ พระบรมราชโองการนี้เพื่อนสมาชิกวุฒิสภาทุกคนได้รับพระมหากรุณาธิคุณเช่นเดียวกับพวกเรา  จะต้องน้อมรับพระบรมราชโองการเพื่อปฏิบัติให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน จนกว่าชีวิตจะหาไม่จากนั้น เข้าสู่วาระพิจารณาเรื่องด่วน คือ กำหนดวันและเวลาประชุมวุฒิสภา และพิจารณาญัตติ เรื่อง ขอเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 5 ฉบับ ที่สมาชิกวุฒิสภานำเสนอ จากนั้น มีได้พิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด (ตามข้อบังคับ ข้อ 105)  อาทิ การยุบ กมธ.แก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ พร้อมแยก กมธ.ตำรวจ ออกจาก กมธ.กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เป็นต้น และให้ยกเลิกหมวด 10 ภารกิจด้านการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ เนื่องจากเป้าหมายดังกล่าวได้สิ้นสุดลงไปพร้อมกับสมาชิกวุฒิสภาชุดก่อนแล้วนอกจากนี้ นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา  ได้เสนอเปลี่ยนแปลงวันประชุมวุฒิสภา เป็น 3 วัน ให้ประชุมวันจันทร์ อังคารและพุธ โดยให้เหตุผลว่า ปัจจุบันรัฐสภามีสองห้องประชุมใหญ่ซึ่งแยกกันระหว่างสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา จึงไม่มีปัญหาเรื่องห้องประชุม และเหตุผลที่สอง สมาชิกต่างก็มีห้องทำงานของตนเอง และเห็นว่าทำงานจาก3วันใน7วัน และเพิ่มประชุมกรรมาธิการอีก1วัน เป็น4วันใน7วัน จึงเห็นว่าไม่ควรกำหนดวันประชุมแบบเดิม  และเห็นว่ามีการประชุมตั้งคำถามในวันที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี ทำให้รัฐมนตรีไม่สามารถตอบกระทู้ได้ ทำให้วุฒิสภาไม่มีโอกาสที่จะซักถามฝ่ายบริหาร จึงเสนอให้เพิ่มประชุมวันพุธเพื่อเป็นการตั้งกระทู้ถาม ส่วนพลตำรวจโทบุญจันทร์ นวลสาย สมาชิกวุฒิสภา เห็นต่างด้วยให้เหตุผลว่าวันจันทร์และวันอังคารตามเดิมที่มีการประชุมนั้นมีความเหมาะสมยกเหตุผลจะต้องมีการประชุมกรรมาธิการ ซึ่งหนึ่งคนเป็นกรรมการได้ 2 คณะ จึงเห็นว่าวันพุธควรจะประชุมกรรมาธิการ พร้อมเสนอแนะให้ตั้งกระทู้ถามฝ่ายบริหารในวันจันทร์แทน โดยที่ประชุมวุฒิสภามีมติ ไม่เห็นด้วย 164 ต่อ 24  งดออกเสียง  5 ไม่ลงคะแนนเสียง2  ตีตกญัตติหมอเปรมเสนอให้ที่ประชุมวุฒิสภาประชุมสัปดาห์ละ 3 วัน คือวันจันทร์ วันอังคารและวันพุธ โดยที่ประชุม สรุปว่าเห็นด้วยกับการประชุมวุฒิสภาทุกวันจันทร์และวันอังคารจำนวน 2 วัน เวลา 09:30 น. เป็นต้นไปส่วนการประชุมในวันที่ 6 ส.ค.67 จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 122,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลจะนำไปใช้ดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หลังจากผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้วเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมาที่มาข่าว:TNN